"ระยอง"เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและการขนส่ง รองรับการเดินทางในพื้นที่-นักท่องเที่ยว สอดรับแผน EEC คาดจะสามารถสร้างรายได้ภายใน 3-5ปี ประมาณ 10% ของ GDP

นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เปิดเผยเกี่ยวกับการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งของจังหวัดระยอง ว่าขณะนี้จังหวัดระยองอยู่ระหว่างการว่าจ้างสถาบันการศึกษาของจังหวัดระยองเพื่อศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดระยองทั้งในเส้นทางหลักและเส้นทางรองในหลายรูปแบบเพื่อรองรับการเดินทางในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว เนื่องจากระยองถือเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมต่างๆ และการขนส่งในภูมิภาคอาเซียนด้วย ซึ่งในส่วนของนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่มีหลายโครงการสำคัญในพื้นที่จังหวัดระยองได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการรถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ, โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 เป็นต้น 

ทั้งนี้ ขณะนี้จังหวัดระยองอยู่ระหว่างการเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ ของโครงการ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยได้มีการประสานงานกับมหาวิทยาลัยของประเทศจีน 5 แห่ง ในการผลิคบุคลากรด้านวิศวกรรมระบบรางรองรับการก่อสร้างและการซ่อมบำรุง ของโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่ด้วย รวมถึงขณะนี้ทางสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(สกรศ.) อยู่ระหว่างการทำการตลาด เพื่อเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติมาร่วมลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งล่าสุดพบว่ามีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจมาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากเช่น ยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ EEC จะช่วยสร้างมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจของพื้นที่และประเทศเติบโตอย่างมหาศาล โดยในปัจจุบัน จังหวัดระยองสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยกว่า 7% ของ GDP อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้านี้ จังหวัดระยอง จะสร้างรายได้ถึง 10% ของ GDP โดยอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ จะเป็นด้านของปิโตรเคมี และเชื่อว่าอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างจะเติบโตตามด้วย

ด้าน ร.ท.ศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่าการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งของจังหวัดระยองถือเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา จังหวัดระยองได้มีการเติบโตและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ระบบขนส่งต่างๆ กลับได้รับการพัฒนาช้ากว่าที่ควรจะเป็นส่งผลให้จังหวัดระยองได้รับผลกระทบด้านการขนส่งและการจราจร รวมทั้งปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนและการสูญเสียทางเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกเป็นปริมาณมาก