นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงให้ความสำคัญกับแนวทางการส่งเสริม การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์รูฟท็อป) ที่จะเป็นแกนหลักในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในอนาคตที่จะบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก(AEDP) ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ โดยจะสามารถสรุปแนวทางการดำเนินงานภายในไม่เกินสิ้นปี 2561 นี้
พร้อมยืนยันว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายเพื่อเปิดกว้างให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจนี้ แต่จะไม่ใช้คำว่าเสรี และจะดำเนินการส่งเสริมควบคู่ไปกับการสนับสนุนโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ(ในเขื่อน) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มีแผนที่จะลงทุนราว 500-1,000 เมกะวัตต์ และจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมการดำเนินงาน เพื่อที่จะนำไปสู่การพัฒนาและวิจัยต่อยอดเทคโนโลยีของไทยเอง
“โซลาร์รูฟท็อป นั้นเราจะไม่ใช้คำว่าเสรีเพื่อให้เกิดความสับสน แต่จะเป็นอย่างไร เราขอพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้งเพราะจะเป็นแกนหลักในระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศในอนาคต ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการที่เหมาะสมที่จะรองรับได้ แต่ราคารับซื้อคงจะไม่กำหนดที่ 2.44 บาทต่อหน่วย เช่นกับพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ เพราะมีความแตกต่างมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากโดยเฉพาะครัวเรือนคิดว่าจะเปิดโครงการได้ปีนี้” นายศิริกล่าว
สำหรับปัจจุบันโซลาร์ฟาร์มแบบลอยน้ำ (Floating Solar Farm) นั้น กฟผ.มีโครงการความร่วมมือกับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในระดับ 2.40-2.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีแรกของโลก ที่ผสมผสานการผลิตไฟจากแสงอาทิตย์กับน้ำในเขื่อนที่ไม่ต้องสร้างสายส่งใหม่ เพราะมีระบบต่างๆ รองรับในเขื่อนอยู่แล้ว ดังนั้นหากเอกชนรายใดมั่นใจว่า สามารถผลิตไฟฟ้าในต้นทุนที่แข่งขันได้ก็สามารถเข้าร่วมดำเนินงานกับกฟผ.ได้ทันที ซึ่งขณะนี้กฟผ.อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดที่จะเปิดให้ร่วมดำเนินการคาดว่าจะประกาศได้ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ยังเตรียมส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จำนวน 250-300 เมกะวัตต์ เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงไฟฟ้าในภาคใต้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรูปแบบของโครงการ โดยจะสามารถเปิดโครงการให้ได้เร็วที่สุด
นายศิริกล่าวว่า ในส่วนของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนไฮบริด แบบสัญญาผลิตไฟฟ้าเสถียรชั่วคราว(เซมิ-เฟิร์ม) หรือ VSPP Semi Firm จำนวน 269 เมกะวัตต์ ที่เดิมมีแผนจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าในปีนี้ หากไม่สามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ในต้นทุนต่ำกว่า 2.44 บาทต่อหน่วย ก็ไม่ควรเดินหน้าโครงการต่อไป เพื่อให้เป็นภาระต่อผู้ใช้ไฟฟ้าของประเทศ
“กระทรวงพลังงานขอย้ำอีกครั้งว่า นโยบายการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งชีวมวล ลม แสงอาทิตย์ ยกเว้นขยะนั้นจะเปิดรับซื้อได้ไม่อั้นหากราคาค่าไฟต้องไม่เกิน 2.44 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยจากการประมูล SPP Hybrid Firm ซึ่งมีผู้ชนะการประมูล 17 ราย จำนวน 300 เมกะวัตต์ หากเรารับซื้อที่สูงกว่าก็เท่ากับไม่ยุติธรรมกับ 17 รายนี้” นายศิริกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี