30 พ.ค.61 นายศักดิ์ณรงค์ แสงสง่าพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ดูแลกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจใหม่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 5 ธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจไอที กลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจบริการอาหารและการจัดจำหน่าย กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจบริการ โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจไอที ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันการเติบโตชองภาพรวมทั้งรายได้และกำไร

อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาธุรกิจไอทีในปี 2560 ที่ผ่านมา มีรายได้คิดเป็น 22% ของรายได้รวมทั้งบริษัท ที่มีรายได้ 15,639 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559ราว 11%

ทั้งนี้ในปี 2561บริษัท ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มธุรกิจไอทีไว้ที่ 3,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนราว 12% โดยรายได้ปี 2560 อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท กำไร 91 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ 60% และบริการด้านระบบต่างๆ 40% โดยปัจจุบันบริษัท มีงานในมือ (Back log) จำนวน 2,200 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักจะมาจากบริษัท Pcc 50% คิดเป็นเงินราว 1,500 ล้านบาท และบริษัท Loxbit 30% คิดเป็นเงิน 1,200 ล้านบาท และบริษัท Net1 10% คิดเป็นเงินราว 500 ล้านบาท

“ในปีนี้เรามีแผนเข้าประมูลโครงการใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งเป็นโครงการวางระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (เนชั่นแนล อีเพย์เมนต์) ของกระทรวงการคลัง ที่มีมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังจะประมูลโครงการดังกล่าวได้ถึง 3-4 โครงการ จำนวน 3-4 พันล้านบาท อาทิ โครงการ Data Archiving, Bigdata ของกรมสรรพากร ฯลฯ ซึ่งขณะนี้บริษัท มีความพร้อมค่อนข้างมาก เตรียมงานนี้มาเป็นปีๆ และมีความรู้เกี่ยวกับโครงการตั้งแต่เริ่มเกิดโครงการดังกล่าว และมีโอกาสจะประมูลได้ 50%” นายศักดิ์ณรงค์ กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ปรับยุทธศาสตร์ของกลุ่มไอทีทั้งหมด และเตรียมเงินลงทุนราว 100 ล้านบาท ด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และด้าน Cloud เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจไอทีของบริษัท ในเรื่องของบุคลากรที่ได้รับใบรับรองด้านไอทีครอบคลุมทุกสาขาการให้บริการ ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมทุกระบบของลูกค้า

นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าตลาดไอทีปีนี้และปีหน้าจะยังดีอยู่ แนวโน้มของทุกเรื่องจะเปลี่ยนเป็นไอทีทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระตุ้นตลาด ซึ่งบริษัทที่เป็นผู้วางระบบการให้บริการอย่างเดียวจะหายไปจากตลาดภายใน 3 ปี แต่ละบริษัทจะต้องปรับเปลี่ยนการให้บริการระบบให้รอบด้าน ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวทั้งในแง่รูปแบบธุรกิจ และบริการ

สำหรับ กลุ่มบริษัท ไอที ของล็อกซเล่ย์ ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซบิท จำกัด (มหาชน) (Loxbit), บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด (PCC),บริษัท เน็ทวัน เน็ทเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด (Net1),บริษัท ล็อกซเล่ย์ ออร์บิท จำกัด