นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ประมาณการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ว่า จะมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง อยู่ที่ประมาณ1.27-1.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าส่งออกทั้งปี 2561 อยู่ที่ 2.53-2.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัว 7-9% ภายใต้สมมุติฐานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ในปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 4.5%
โดยการส่งออกที่ยังเติบโตต่อเนื่องมาจากปัจจัยหนุน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.เศรษฐกิจโลกยังขยายตัวดี โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาและตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่ยังขยายตัวร้อนแรงต่อเนื่อง 2.ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูง และ 3.ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกยังขยายฐานการผลิตในไทย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกในครึ่งปีหลัง ได้แก่ มาตรการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น แม้ว่าในระยะสั้นไทยอาจจะได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นดังกล่าวแต่ในระยะกลางและระยะยาวไทยอาจได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น จากต้นทุนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จากนโยบายการเงินของประเทศมหาอำนาจที่ไม่สอดคล้องกัน ส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศเคลื่อนไหวรวดเร็ว โดยทิศทางค่าเงินบาทจากต้นปี 2560 อยู่ที่ 34-35 บาทต่อดอลลาร์ แต่ปลายปีแข็งค่าถึง 32 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนปี 2561ค่าเงินทรงตัวอยู่ที่ 33-34 บาทต่อดอลลาร์ ผันผวน 4-5% จากปีที่ผ่านมา และคาดว่าสิ้นปีนี้ ค่าเงินบาทจะอยู่ที่ 33.50-34 บาทต่อดอลลาร์
“ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีควรมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ไม่ควรเก็งกำไรรวมถึงการทำประกันภัยการส่งออกกับเอ็กซิมแบงก์ ซึ่งอาจจะทำให้กำไรลดลง 1% แต่การส่งออกปลอดภัยจากความเสียหาย เพราะหากไม่ทำประกันและคู่ค้าเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงิน” นายพิศิษฐ์
กล่าว
นอกจากนี้ยังมีปัญหาความขัดแย้งและภัยธรรมชาติอาจปะทุขึ้นเป็นระลอก ทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ความขัดแย้งภายในสเปน และภัยธรรมชาติต่างๆ ที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ขณะเดียวกันปัจจัยเสี่ยงเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้า เป็นประเด็นสำคัญที่ ธสน. อยากให้ผู้ส่งออกไทยเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว โดยการขยายการค้าและการลงทุนไปในตลาดใหม่ที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญในด้านการค้าและการลงทุนของโลก ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดหลัก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ
เศรษฐกิจโลก
นายพิศิษฐ์กล่าวถึงผลประกอบการของธนาคาร สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 ยอดสินเชื่อคงค้าง 9.64 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 1 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการส่งออกไปประเทศ CLMV จำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 2.88 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 3.39% จากเป้าหมายทั้งปีไม่เกิน 4.75%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี