นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารงานภายหลังรับตำแหน่งใหม่ว่าได้วางเป้าหมายให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นลำดับแรกโดยมีแนวทางพัฒนาการปฏิบัติทุกด้านให้เกิดประสิทธิภาพทั้งผลิตภัณฑ์การบริการและบุคลากรเพื่อเป้าหมายในการเป็น The Most Trusted Asset Management Company หรือบลจ.ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด
นอกจากการนำระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาประยุกต์ในการลงทุนแล้วเรายังให้ ความสำคัญกับการลงทุนที่ยั่งยืนโดยการจัดตั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นธรรมาภิบาลไทย (SCBTHAICG) โดยเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม สังคมธรรมาภิบาลและมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกทั้งยังเน้นการพัฒนาด้านบริการเพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกเพิ่มมากขึ้นเช่นการเปิดบัญชีครั้งแรกผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นการสร้างความสะดวกในการลงทุน
“เราได้วางเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้าโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 3 แสนราย เป็น 1.5 ล้านราย ภายใน 3 ปี โดย 70%-80% มาจากช่องทาง Digital บน SCB Easy” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
ปัจจุบันบลจ.ไทยพาณิชย์มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 รวม 1,425,155 ล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 20.60% เติบโตจากสิ้นปี 2560 คิดเป็นอัตรา 3.7% (AUM ณ 29 ธันวาคม 2560 รวม 1,374,870 ล้านบาท)
สำหรับภาพรวมด้านการลงทุนช่วงที่เหลือของปีนี้นายณรงค์ศักดิ์ให้ความเห็นว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนในขาขึ้นต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังเติบโตต่อเนื่องที่จะช่วยเสริมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะได้ประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้ อาทิ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในอนาคต รวมไปถึงการฟื้นตัวของราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่ทำให้การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคฟื้นตัวคาดว่าส่งผลดีต่อแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลงจากมาตรการภาษีการค้าระหว่างสหรัฐ และประเทศคู่ค้าโดย เฉพาะกับจีน และอาจขยายวงกว้างไปสู่ประเทศคู่ค้าอื่นๆ รวมทั้งต้นทุน ทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้อัตราการทำกำไรของบจ.มีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่สภาพคล่องในตลาดเงินโลกมีแนวโน้มชะลอลง จากการลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) การชะลอวงเงิน QE ของธนาคารกลางยุโรป จะส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนเพิ่มขึ้นและผลตอบแทนจากการลงทุนลดลงเปรียบเทียบกับช่วงที่สภาพคล่องทางการเงินทรงตัวในระดับสูง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี