นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส หรือบีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจร เปิดเผยระหว่างนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี จ.ชลบุรีว่าโครงการใหม่ของบริษัทในปี 2562-2564 มีมูลค่าการลงทุน 4,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนในมาบตาพุดซึ่งเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จำนวน 3,500 ล้านบาท และประเทศพม่า 500 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการโรงผลิตก๊าซไฮโดรเจน ขนาดกำลังการผลิต 120,000 ตันต่อปี ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มูลค่าการลงทุน 600 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จปี 2562
2.โครงการก่อสร้างโรงผลิตก๊าซอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ ระยอง ขนาดกำลังการผลิตไนโตรเจน 50,000 ตันต่อปี ที่นิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ระยอง มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จปี 2562
3.โครงการโรงผลิตก๊าซอุตสาหกรรม แห่งใหม่ ขนาดกำลังการผลิตไนโตรเจนและออกซิเจน 450,000 ตันต่อปี ที่นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จปี 2563
4.โครงการขยายกำลังการผลิตโรง BIG 3 ขนาดกำลังการผลิตไนโตรเจนและออกซิเจน 100,000 ตันต่อปี ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชบ่อวิน ระยอง มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จปี 2564
และ 5.โครงการโรงผลิตก๊าซอุตสาหกรรม เมืองติลาวา ย่างกุ้ง ประเทศพม่า ขนาดกำลังการผลิตไนโตรเจนและออกซิเจน 100,000 ตันต่อปี มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จปี 2564
การลงทุนดังกล่าวเป็นการรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้มีกำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มเป็น 2.1 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบัน 1.5 ล้านตันต่อปี มูลค่าทรัพย์สินรวม 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมลงทุนโครงการห้องเย็น/แช่เยือกแข็งผลไม้ในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อรองรับผลไม้ในพื้นที่โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก หรืออีเอฟซี คาดใช้พื้นที่ 10 ไร่ เงินลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท หนึ่งในโครงการที่ตั้งอยู่ในเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทพาร์ค) เบื้องต้นยังเจรจากับบริษัท ปตท.และบริษัทปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เกี่ยวกับการบริหารจัดการและระบบขนส่ง คาดจะได้ข้อสรุปต้นปี 2562
สำหรับโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี มีกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมกว่า 1,400 ตันต่อวัน หรือ 530,000 ตันต่อปี ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ แบ่งเป็นการผลิตไนโตรเจนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมเหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม 200,000 ตันต่อปี
ขณะเดียวกันยังสามารถผลิตออกซิเจนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเหล็ก กระจก การแพทย์ รวมถึงการนำไปใช้ในระบบบำบัดน้ำเสีย 300,000 ตันต่อปี และการผลิตอาร์กอนสำหรับเชื่อมโลหะเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์์ 11,000 ตันต่อปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี