นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2561 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 31,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,795 ล้านบาท หรือ 9.76% ส่วนใหญ่เกิดจากธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง นอกจากนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2,926 ล้านบาท หรือ 4.17% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อ เงินลงทุน และรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.41%
สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 3,520 ล้านบาท หรือ 7.34% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง และการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ในขณะที่รายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงินเพิ่มขึ้นจากธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้น 1,456 ล้านบาท หรือ 3.07% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายทางการตลาด และค่าใช้จ่ายพนักงาน ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 41.60%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2561 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 9,744 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 1,173 ล้านบาท หรือ 10.75% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 637 ล้านบาท หรือ 2.62% และมีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.43% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 3,187 ล้านบาท หรือ 19.63% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัย และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนจากรายการเพียงครั้งเดียวในการจำหน่ายหลักทรัพย์ และรายได้เงินปันผล นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ลดลง 471 ล้านบาท หรือ 2.83% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 42.58%
ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 3,053,804 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 จำนวน 152,963 ล้านบาทหรือ 5.27% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิ และการเติบโตของสินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPLgross) ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 อยู่ที่ระดับ 3.30% เท่ากับสิ้นปี 2560 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverageratio) ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 155.95% จากระดับ 148.45% ณ สิ้นปี 2560 สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 อยู่ที่ 18.96% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.50%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี