นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ Thailand 2019 จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติ ว่า ปี 2019 เป็นปีที่สำคัญเนื่องจากเป็นปีที่โอกาสอยู่หน้าประตูบ้านขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่มาจากโลกและในไทยเอง ขณะนี้ทั่วโลกมีการโฟกัสอยู่ที่เอเชีย โดยเฉพาะจีนกับญี่ปุ่น กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเอเชีย ไทยต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับทั้งสองประเทศเพื่อไม่ให้ค่ายอื่นตามเราทัน
“ถ้าสามารถทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ CLMVT ประสานทุกฝ่ายได้ ไทยจะเริ่มมีโปรไฟล์ที่ใหญ่ขึ้น ขณะนี้จีนกำลังโปรโมทโครงการ Belt and Road เชื่อมโยงจากจีนไปทุกทิศทุกทางโดยรถไฟ การค้าการขายการลงทุนจะไปอยู่เส้นทางรถไฟ เส้นทางที่มีความขัดแย้งน้อยที่สุดคือเส้นทางที่มาสู่ทางใต้ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์กับไทยสูงที่สุด ถ้าเราเชื่อมโยงกับ CLMVT จะเพิ่มเติมเสน่ห์ให้ไทยทำให้จีน ญี่ปุ่น สนใจแน่นอน” นายสมคิดกล่าว
สำหรับปีหน้าไทยเป็นประธานอาเซียนโปรไฟล์ของไทยจะขึ้นไปสู่ระดับโลก หากรู้จักคิดมุมใหม่ๆ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของภูมิภาครวมทั้งปีหน้าหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรืออาร์เซป ที่มีอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย เป็นหุ้นส่วนจะเกิดขึ้นแล้วไปเข้าร่วม CPTPP หรือ Comprehensive and Progressive Trans-pacific Partnership ซึ่งเป็นข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่มีญี่ปุ่น และสหรัฐเป็นหุ้นส่วน ปีหน้าจึงเป็นโอกาสของไทย
“ล่าสุด นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กับ นายชินโสะ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่น จะให้มีการร่วมลงทุนในประเทศที่สามเพื่อพัฒนาประเทศที่สามเจริญยิ่งขึ้นเป็นหมากสำคัญของจีนกับญี่ปุ่นหลังมีสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ โดยนายอาเบะ ได้บอกเป้าหมายสำคัญ คือ Southeast Asia และชี้เป้ามายังเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี แสดงว่าภาพที่ไทยพยายามสร้างให้เห็นว่าไทยมีความสำคัญยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและการเมืองเข้าไปอยู่ในใจผู้นำทั้งสองประเทศแล้ว ถ้าเราไม่สามารถต่อยอดก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ดังนั้น ปีหน้า จึงเป็น Golden year ของการลงทุนไทย เรากำลังเวลคัมคนที่มาลงทุนในประเทศไทย” นายสมคิดกล่าว
เพื่อรองรับการเป็นโกลเด้นเยียร์ของการลงทุน เร็วๆ นี้ บีโอไอ จะออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติมและรัฐบาลจะเร่งรัดการใช้จ่ายให้เร็วขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ล่าสุดเรื่อง visa arrival ผ่านความเห็นชอบแล้วจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยอีกทางหนึ่ง ส่วนเรื่องการเลือกตั้งของไทยในปีหน้านั้น ต่างชาติจะสนใจเรื่องความต่อเนื่องของนโยบาย
“ความเสี่ยงข้อสำคัญของไทย คือ การเลือกตั้ง ต่างประเทศไม่สนใจว่าเลือกหรือไม่เลือก แต่สนใจความต่อเนื่องเชิงนโยบาย ไม่อยากไปประเทศซึ่งมีจลาจลอยู่ท้องถนน ปีหน้าเป็นปีที่เราเป็นประธานอาเซียน หลังจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราเป็นประธานอาเซียน มีดราม่าละครที่ยิ่งใหญ่เรามีม็อบไปปิดโรงแรม ผู้นำต่างประเทศต่างขึ้นเฮลิคอร์ปเตอร์หนีแทบไม่ทัน ยังจำได้กันหรือไม่ คราวนี้ผมขอเลยอย่าให้เกิดขึ้น หากเกิดขึ้นอีกครั้งโอกาสไทยจะหมดลงทันที การเลือกตั้งต้องแข่งขันกัน ด่ากันพอประมาณ ให้มันสนุกสนานไป สู้กันในเกมไม่ว่าพรรคไหน แต่ต้องคำนึงว่าเราเป็นประธานเจ้าภาพอาเซียนเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญอย่าให้อะไรเกิดขึ้นบนถนนเหมือนในอดีตดังนั้นในปี 2019 ถ้าเราทำได้ดีจะไปได้ดี ถ้าทำไม่ดีโอกาสจะหาย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน” นายสมคิดกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี