นายชูวงศ์ ตั้งคุณสมบัติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือกับคณะผู้แทนหอการค้าเนปาล (Nepal Chamber of Commerce) ซึ่งนำโดย Mr. Deepak Kumar Malhotra รองประธานสภาหอการค้าเนปาล ว่า บีโอไอ และสภาหอการค้าเนปาลได้หารือถึงโอกาส และลู่ทางการลงทุนของนักธุรกิจไทยที่จะไปลงทุนในเนปาล ปัจจุบันรัฐบาลเนปาลเปิดกว้างต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ อุตสาหกรรมเกษตร ธุรกิจบริการ ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว เป็นต้น
“ภายหลังการหารือ บีโอไอพบว่า โอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจของไทยในเนปาล คือ ธุรกิจโรงพยาบาล โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ติดกับประเทศอินเดียตอนเหนือ ซึ่งยังมีโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง (High end) ค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้มีฐานะในพื้นที่ดังกล่าวต้องเดินทางไปรักษาตัวในประเทศใกล้เคียง เช่น ไทย สิงคโปร์ เป็นต้น หากโรงพยาบาลจากประเทศไทยไปลงทุนเปิดให้บริการ จะมีทั้งชาวอินเดียจากตอนเหนือและชาวเนปาลหันมารับบริการแทนการเดินทางไปรักษาที่อื่นๆ ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลออกไป” นายชูวงศ์กล่าว
นอกจากนี้ สภาหอการค้าเนปาลยังเชิญชวนให้บีโอไอสนับสนุนนักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในบริการด้านการท่องเที่ยวในเนปาลด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลเนปาลกำลังสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงพุทธ (Buddhist Tourism) ซึ่งเนปาล เป็นที่ตั้งของ ลุมพินีวัน อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็น 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ ดังนั้นหากมีธุรกิจโรงแรมชั้นนำของไทยเข้ามาลงทุนเปิดให้บริการ ก็จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย รวมทั้งต้องการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในสายธุรกิจการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเข้าไปลงทุนเปิดกิจการในกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ฝึกอบรมมัคคุเทศก์ระดับนานาชาติ สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านโรงแรม ศูนย์พัฒนาระบบไอทีรูปแบบต่างๆเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่จะเกิดขึ้นใหม่
“วันนี้เราต้องไม่มองโอกาสของนักลงทุนไทยเฉพาะในประเทศหรือเมืองที่มีนักลงทุนจากชาติอื่นๆเข้าไปลงทุนแล้ว แต่เราจะมองโอกาสใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนเป็นลำดับแรกๆ เพื่อคว้าโอกาสดีๆ ก่อนคนอื่นบ้าง” นายชูวงศ์กล่าว
นอกจากนี้ จากผลการประชุมหารือกับคณะข้าราชการระดับสูงจากประเทศเคนยา เพื่อส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเคนยา ระบุว่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สินค้าไทยส่งออกไปยังเคนยามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเคนยามีความพร้อมในเรื่องระบบเครือข่ายการขนส่งดีที่สุดในกลุ่มแอฟริกาภาคตะวันออก ดังนั้น เคนยาจึงเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าผ่านไปยังกลุ่มประเทศที่มีตลาดขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง อาทิ ประเทศแทนซาเนีย ซูดานใต้ อูกันดา คองโก และเอธิโอเปีย
รัฐบาลเคนยามีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น การอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนโดยไม่ต้องมีหุ้นกับธุรกิจท้องถิ่น รวมทั้งมีการกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบเขตอุตสาหกรรมส่งออก เป็นต้น และพร้อมต้อนรับการลงทุนจากทุกอุตสาหกรรมของไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี