นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือบริษัทบัตรกรุงไทย เปิดเผยว่าในปี 2561 เคทีซี มีกำไรสุทธิ 5,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งปีเท่ากับ 193,101 ล้านบาท เติบโต 9.2% ขณะที่อุตสาหกรรมเติบโตที่ 10%
“โดยภาพรวมบริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจได้เป็นที่น่าพอใจ ทั้งการขยายตัวของรายได้ดอกเบี้ยและอัตราการขยายฐานสมาชิกที่เติบโตค่อนข้างดี ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลงเนื่องจากจำนวนหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดต่ำลง รวมทั้งสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอดก็คือ การบริหารควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ โดยพยายามที่จะคุมอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) ให้ลดระดับลงมาเรื่อยๆ และต่ำกว่าอุตสาหกรรม
สำหรับปี 2562 บริษัทตั้งเป้าจะทำกำไรและรักษาระดับ NPL ให้อยู่ในระดับเดียวกับปี 2561 ที่ 1.1% พอร์ตลูกหนี้โตที่ 10% และมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมที่ 15%”
โดยในปี 2561 เคทีซี มีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมที่ 12.2% ใกล้เคียงกับปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 12.3% ส่วนแบ่งตลาดของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่ากับปีก่อนหน้าที่ 11.2% และมีสัดส่วนของลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซีเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ 7% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 79,648 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 73,636 ล้านบาท โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 78,202 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 3.3 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 10.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2,387,659 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 51,062 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล 951,882 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 26,821 ล้านบาท ลูกหนี้NPL ลดเหลือ 1.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 1.3% NPL บัตรเครดิตลดเหลือ 1.0% จาก 1.1% และ NPL สินเชื่อบุคคลคงอยู่ในระดับเดิมที่ 0.76%
รายได้รวมปี 2561 เท่ากับ 21,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ย (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ และหนี้สูญได้รับคืน ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 15.10% ลดลงจากปี 2560 ที่มีค่าเท่ากับ 15.13% บริษัทมีอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 3.87 เท่า ต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า
นายระเฑียรกล่าวว่าสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2562 มีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวในลักษณะชะลอตัวลง แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี การเร่งตัวขึ้นของการลงทุนภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดันในภาคเศรษฐกิจและการเงินโลกที่มีความเสี่ยงและอาจส่งผลต่อความผันผวนและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับสภาพการแข่งขันของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่มีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาทำตลาด และมาตรการควบคุมของภาครัฐและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้เคทีซีต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง
“สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือผลักดันฐานรายได้ให้เติบโตก้าวกระโดดจากการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ของธุรกิจนาโนและพิโกไฟแนนซ์ ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจหลักบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลให้มีความแตกต่างและเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของลูกค้า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี