นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่าการส่งออกของไทยปี 2562 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้อาจจะชะลอลงจากปีก่อนซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัว 6.7% ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนราคาน้ำมันและค่าเงินบาทยังผันผวนสูง แต่โอกาสส่งออกไปยังตลาดประเทศเกิดใหม่ รวมทั้ง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ยังมีอยู่มาก
EXIM BANK จึงพัฒนาบริการสินเชื่อระยะสั้นครบวงจรสำหรับใช้หมุนเวียนช่วงก่อนและหลังการส่งออก รวมถึงการนำเข้า พร้อมบริการประกันการส่งออกสำหรับ SMEs ที่ต้องการ
เริ่มต้นหรือขยายการส่งออก โดยให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการส่งออกไปยัง CLMV
บริการด้านเงินทุนหมุนเวียนสำหรับ SMEs ที่ต้องการเริ่มต้นส่งออกไปยัง CLMV ได้แก่ “สินเชื่อเอ็กซิมเชื่อม SMEs ไทยสู่ CLMV (EXIM CLMV SMEs Credit)” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนก่อนและหลังการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย Prime Rate -1.75% ต่อปี หรือ 4.50% ต่อปี (จากอัตรา Prime Rate ปัจจุบัน 6.25% ต่อปี) และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ต่อปีสำหรับลูกค้าประกันการส่งออกของ EXIM BANK ซึ่งจะได้รับทั้งเงินทุนหมุนเวียนและความคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ รวมถึงวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า สูงสุดเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ ใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบุคคลค้ำประกันได้ ระยะเวลาอนุมัติตั้งแต่บัดนี้ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563
พร้อมทั้งพัฒนาบริการ “ประกันส่งออก SMEs Easy” เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผนจะส่งออกหรือกำลังจะส่งออกในมูลค่าไม่สูงนักแต่ละครั้ง หรือกำลังจะไปเจรจาการค้าที่งานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และต้องการความคุ้มครองความเสี่ยงจากการทำการค้ากับผู้ซื้อในต่างประเทศ บริการนี้ให้ความคุ้มครองกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมกลุ่มประเทศ CLMV วงเงินรับประกันสูงถึง 2 ล้านบาท โดยคุ้มครอง 85% ของมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น
ผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 มีเงินให้สินเชื่อคงค้าง 106,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,653 ล้านบาท หรือ 18.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 35,394 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 70,948 ล้านบาท ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ 46,735 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นของ SMEs เท่ากับ 25,834 ล้านบาท และ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs เท่ากับ 40,978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,529 ล้านบาท หรือ 12.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่งผลให้ไตรมาสแรกปี 2562 มีกำไรสุทธิ 334 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 อยู่ที่ 4.26% โดยมี NPLs จำนวน 4,534 ล้านบาท และเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 9,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,285 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จำนวน 5,293 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองหนี้พึงกัน 181.97% ทำให้ยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี