เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเข้ากระทรวงอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการว่า การทำงานจะมีแผนปฏิบัติการชัดเจนภายใน 100 วัน เพื่อใช้กลไกภาคอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งครั้งนี้เป็นการกลับมาทำงานในกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นครั้งที่ 4 แต่ครั้งนี้มีปัจจัยเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอย ส่งผลให้กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยจะมีการบูรณาการทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อให้แก้ไขปัญหา และมั่นใจว่า หลังรัฐบาลแถลงนโยบายจะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภาคอุตสาหกรรมครึ่งปีหลัง 62 ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)
ทั้งนี้จะส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และนวัตกรรมให้ได้มากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ของเอสเอ็มอี ยังเป็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งจะไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ รวมทั้งจะเข้าไปพิจารณากองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีต่างๆ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีหลายกองทุน เข้าไปดูว่า ทำอย่างไรให้เงินเข้าถึงเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง และทุกภาคส่วนต้องเท่าเทียมกัน ไม่ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยตนจะเข้าไปทะลวงท่อให้เงินไหลเข้าเอสเอ็มอีตรงจุดให้มากที่สุด และจะเชื่อมให้เอสเอ็มอีเข้ากับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนการผลิตในประเทศมากขึ้น ซึ่งต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้ง
“การลงทุนที่ชะลอส่วนหนึ่ง เป็นเพราะปัญหาการเมืองที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน แต่จากนี้ไปคงจะมีมากขึ้นและ ผมคงจะหาโอกาสลงพื้นที่อีอีซีเป็นพื้นที่แรก เพื่อศึกษาภาพรวม ซึ่งแนวคิดต้องการที่จะนำโมเดลการพัฒนาอีอีซีไปใช้กับภูมิภาคอื่นๆ เช่น อีสาน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายรับบาล จากปัจจุบันที่เน้น 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรีและฉะเชิงเทรา แต่ประเด็นทั้งหมดนี้จะต้องไปหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้วยว่า จะมีนโยบายอย่างไร เพื่อให้เป็นทิศทางเดียวกัน” นายสุริยะ กล่าว
นอกจากนี้จะเข้าไปดูเรื่องสิ่งแวดล้อมของโรงงานต่างๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับคนในพื้นที่รอบๆ รวมทั้งการกำจัดกากอุตสาหกรรม หรือขยะพิษต่างๆ ต้องกำจัดให้ถูกต้องอย่างเป็นระบบ จะเข้าไปเข้มงวดไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกับการลักลอบทิ้งขยะพิษในจังหวัดสระแก้ว ส่วนนโยบายการห้ามนำเข้าขยะพิษทั้งซากพลาสติก และซากอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ ยังเหมือนเดิม และต้องยกระดับราคาพืชผลเกษตร เน้นการแปรรูป เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยจะต้องไม่ขัดกับหลักขององค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ)
นายสุริยะ กล่าวว่า ส่วนกรณีจะมีการอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคม 62 นี้ ผมมีความมั่นใจว่า จะสามารถตอบคำถามฝ่ายค้านได้ทุกประเด็น โดยประเด็นแรกที่ถูกกล่าวหาว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น เนื่องจากการที่ตนมีพี่น้องที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม และทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ยืนยันว่าพี่น้องไม่ต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจ เพราะสามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์ ที่สามารถขยายตัวได้โดยไมจำเป็นต้องใช้นโยบายใหม่เข้าไปช่วย และการอยู่ห่างจากการเมืองจะเป็นผลดีต่อธุรกิจมากกว่า โดยเรื่องดังกล่าวนี้ตนสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นอย่างแน่นอน
“ขอย้ำว่า ในยุคของผมนโยบายทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องร่วมกันทำงานทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับภาคเอกชน ส่วนทีมที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมอยู่ คงต้องถามภาคเอกชน เช่น ส.อ.ท.ว่าต้องการส่งคนไหนเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์การทำงานให้มากที่สุด” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี