‘สุริยะ’นำทีมถกเอกชนไทยในเวียดนาม คาดลงทุนครึ่งปีหลังดีขึ้น เล็งออก‘แพ็คเกจ’ดูดทุนนอก นายกฯเน้นย้ำสิทธิประโยชน์การลงทุนในไทยให้ชัดเจน คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
1 กันยายน 2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอรายงานผลการนำคณะผู้บริหารเดินทางไปพบปะกับสถาบันการเงินและภาคเอกชนไทยในเวียดนาม พบว่า ความเชื่อมั่นในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น หลังจากโครงสร้างเมกะโปรเจกท์ของไทยเริ่มมีความชัดเจน และรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.1 แสนล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงมาตรการส่งเสริมการลงทุน ตอกย้ำสิทธิประโยชน์การลงทุนในไทยให้มีความชัดเจน และขอให้มาตรการส่งเสริมการลงทุนคำนึงถึงประโยชน์ขอประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
รมว.อุตสาหกรรม รายงานว่า สำหรับผลทางด้านเศรษฐกิจ ในประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนคาดว่ายังคงอยู่ในวงจำกัด โดยผลกระทบสุทธิต่อเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะจำกัด เนื่องจากมีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบ ดังนี้
1.ผลกระทบทางลบ จากกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีกับทุกประเทศทั่วโลก และสินค้าที่ไทยเป็นห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นสำคัญ
2.ผลกระทบในเชิงบวก คาดว่าจะมาจากการส่งออกสินค้าที่ไทยสามารถคว้าโอกาสทดแทนกันในตลาดจีน อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร และในตลาดสหรัฐฯ อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
นางนฤมล กล่าวว่า ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการย้ายการลงทุนเข้ามายังประเทศไทย ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พิจารณารูปแบบ แนวทางการลงทุนของแต่ละประเทศ เพื่อออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่เหมาะสมในรายประเทศ จึงได้มอบหมายการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หารือร่วมกับบีโอไอ กำหนดแพ็คเกจรองรับความต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะหากกลุ่มนักลงทุนประเทศไหน ต้องการลงทุนร่วมกัน ในนิคมอุตสาหกรรมเดียวกัน
ทั้งนี้ ยังพบว่าไทยมีจุดแข็งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจร อำนวยความสะดวกรองรับการค้าการลงทุน แรงงานไทยยังมีทักษะฝีมือสูง ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรม ย้ำว่าจะนำข้อมูลด้านการลงทุนที่ได้จากการพบปะกับสถาบันการเงินและภาคเอกชนไทยในเวียดนาม วิเคราะห์ถึงจุดอ่อน จุดแข็ง ความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ เพื่อออกมาตรการดึงดูดการลงทุนในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม และจะนำเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาให้เชื่อมกับมาตรการภาพรวมที่แต่ละหน่วยงานกำลังดำเนินการ ซึ่งจะทำให้สิทธิประโยชน์การลงทุนในไทยมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็กำชับให้ยังคงติดตามผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐอย่างใกล้ชิดด้วย
อย่างไรก็ตาม นายกฯ เน้นย้ำให้มาตรการส่งเสริมการลงทุนจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง และต้องนำไปสู่การกระจายรายได้ลงสู่เศรษฐกิจฐานราก รวมตลอดถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้เข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี