วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
'บิ๊กตู่'โชว์พลังดูด100บริษัทโสมขาวปักหมุดไทย ตั้งเป้าปีหน้าอัพยอดค้าแตะ2หมื่นล.เหรียญ

'บิ๊กตู่'โชว์พลังดูด100บริษัทโสมขาวปักหมุดไทย ตั้งเป้าปีหน้าอัพยอดค้าแตะ2หมื่นล.เหรียญ

วันจันทร์ ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562, 18.17 น.
Tag : เกาหลีใต้ นักลงทุน นายกฯ บิ๊กตู่ บีโอไอ ประยุทธ์ มูลค่าการค้า รัฐบาล ลงทุนไทย
  •  

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน "ไทยแลนด์-เกาหลี บิสสิเนส ฟอรัม:Thai-Korea Business Forum" ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดขึ้นที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ว่าประเทศเกาหลีเป็นประเทศเป้าหมายที่ไทยจะดึงดูดการค้าการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนของเกาหลีเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 400 บริษัท ซึ่งการหารือร่วมกันครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าเกาหลีให้ความสำคัญกับไทยในฐานะหุ้นส่วนเศรษฐกิจและการลงทุน มีความพร้อมร่วมกันลงทุนด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม

โดยเบื้องต้นให้มอบหมายให้บีโอไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการให้มีความร่วมมือเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยปี 2563 ไทยหวังว่าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทย - เกาหลี ขึ้นจาก 1.4 - 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเป้าหมายที่ท้าทาย อีกทั้งรัฐบาลจะเร่งพัฒนาบุคลากร เตรียมความพร้อมด้านแรงงานที่มีทักษะความรู้ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในอุตสาหกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน  และพัฒนาต่อยอดบุคลากรในอุตสาหกรรมเดิม รองรับการลงทุนในอนาคต


ทั้งนี้ จะอาศัยจุดแข็งที่ไทยมีความได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้ง สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค มีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร มีนโยบายผลักดันสู่ไทยแลนด์ 4.0 และต่อยอดไทยแลนด์ พลัส 1 มีกฎหมายและกติการองรับการลงทุนชัดเจน สะท้อนศักยภาพไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ และใช้จุดแข็งที่เกาหลีมีเข้ามาลงทุนในไทยในโอกาสที่ไทยประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุน

โดยรัฐบาลไทยตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งด้านการค้าการลงทุน จากการที่สามารถใช้พลังด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งผสมผสานกับพลังด้านวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่ผู้ประกอบการในทุกระดับ รวมทั้งสตาร์ทอัพของสาธารณรัฐเกาหลีก็มีเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมที่โดดเด่น จุดแข็งต่างๆ ทั้งความสามารถเชิงเทคโนโลยี ประสบการณ์ในหลากหลายอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างสูงในระดับโลก เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นประตูสู่ภูมิภาค CLMVT และมีบทบาททางเศรษฐกิจที่สำคัญในอาเซียน

"ประเทศไทยได้เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เพื่อเสริมความโดดเด่นด้าน "Connectivity" ในทุกมิติ การสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการเร่งพัฒนาบุคลากรที่มี องค์ความรู้ในเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังนั้น จะใช้จุดแข็งที่มีในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทย โดยใช้ไทยเป็นฐานในการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV และอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนที่ท่านจะได้สิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติม" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายมุน แช อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกัน 3 ประการ ประกอบด้วย 1.การปฏิวัติอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรม 4.0 ผลักดัน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ ไบโอชีวภาพ และเครื่องมือการแพทย์สมัยใหม่ 2.การสร้างความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ (สตาร์ทอัพ) ต่อยอดนโยบายของไทยที่ปัจจุบันผลักดันสตาร์ตอัพให้เพิ่มขึ้นได้ 30%

3.การทำงานร่วมกันเพื่อการค้าเสรีระหว่างไทย-เกาหลีตามนโยบายของประเทศที่เปิดกว้างด้านอุตสาหกรรมที่มีพื้นฐานจากสินค้าเกษตรกรรม โดยหวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างเกาหลี - ไทย จากปัจจุบัน 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มีแรงงานไทยในเกาหลี 80,000 คน และมีแรงงานเกาหลีในไทย 20,000 คน อย่างไรก็ตาม ในเดือน พ.ย.นี้ จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่เกาหลี เพื่อเปิดโอกาสการสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ

"มิตรภาพของไทยและเกาหลีเหมือนสุภาษิตไทยคำหนึ่งที่ว่าเพื่อนแท้เหมือนทองคำที่ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะไทยและเกาหลีเป็นเพื่อนแท้ต่อกัน มีการช่วยเหลือและร่วมมือกันมานาน มิตรภาพนี้จะยั่งยืนต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง" นายมุน แช อิน กล่าว

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่าไทยมีจุดแข็ง 8 ประการ คือ 1.ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน 2.ไทยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบินที่เชื่อมโยงภูมิภาค โดยปี 2562-2567 ไทยตั้งเป้าหมายมีมูลค่าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 6.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 3.มีโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ดึงดูดการลงทุนภูมิภาค 3.ไทยมีอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตที่เข้มแข็ง อาทิ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีผู้เล่นกว่า 2,000 บริษัท อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี เป็นต้น 4.การรองรับตลาดในประเทศที่มีขนาดใหญ่ตอบโจทย์ประชาชน 75% ของประชากรไทยรวมประมาณ 67 ล้านคน ที่มีพฤติกรรมการใช้โซเชียลมากขึ้น

5.การส่งเสริมสตาร์ทอัพที่เข้มแข็ง 6.การมีต้นทุนและความเป็นอยู่ที่ดี 7.การพัฒนาทักษะบุคลาการที่มีคุณภาพเพื่อผลิตคนให้คนกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และ8.ภาครัฐมีนโยบายที่อำนวยความสะดวกและมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน โดยบีโอไอมีการแก้กฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น เช่น สิทธิประโยชน์การยกเว้นอากร สินค้าและวัตถุดิบที่นำมาใช้ในงานวิจัยและพัฒนามากขึ้นสามารถดึงการลงทุน อีกทั้งปีนี้โครงการลงทุนที่มีมูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานและได้รับยกเว้นภาษี 50% อีก 3 ปี เป็นต้น

นายปาค ยง มัน ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า วันนี้มีนักธุรกิจเข้าร่วมงานกว่า 600 คน หรือกว่า 100 บริษัท มีความสำคัญอย่างมากต่อเกาหลี เหมือนได้เปิดขอบฟ้าความร่วมมือแบบทวิภาคี ซึ่งหอการค้าฯ เกาหลีจะร่วมกับบีโอไอส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทย - เกาหลี อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ ยานยนต์ หุ่นยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บีโอไอ เคาะมาตรการหนุน Local Content นำร่องอุตฯ EV - เครื่องใช้ไฟฟ้า บีโอไอ เคาะมาตรการหนุน Local Content นำร่องอุตฯ EV - เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • บีโอไอ ตั้ง “ทีมตรวจสอบพิเศษ” ตรวจกลุ่มอุตฯเสี่ยงต่อการปฏิบัติผิดเงื่อนไข บีโอไอ ตั้ง “ทีมตรวจสอบพิเศษ” ตรวจกลุ่มอุตฯเสี่ยงต่อการปฏิบัติผิดเงื่อนไข
  • บอร์ดบีโอไอไฟเขียวลงทุน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2.8 หมื่นล้าน บอร์ดบีโอไอไฟเขียวลงทุน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2.8 หมื่นล้าน
  • ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯร่วงยาว เอกชนไม่กล้าลงทุนเหตุปัจจัยลบเพียบ ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯร่วงยาว เอกชนไม่กล้าลงทุนเหตุปัจจัยลบเพียบ
  • ดัชนี ความเชื่อมั่นอุตฯ พ.ค. ลด แนะรัฐเร่งมาตรการเชิงรุก ดัชนี ความเชื่อมั่นอุตฯ พ.ค. ลด แนะรัฐเร่งมาตรการเชิงรุก
  • ดัชนีเชื่อมั่นดิ่ง 4เดือนติด เหตุกังวลทรัมป์2.0-ศก.ฟื้นช้า ดัชนีเชื่อมั่นดิ่ง 4เดือนติด เหตุกังวลทรัมป์2.0-ศก.ฟื้นช้า
  •  

Breaking News

อายุเป็นเพียงตัวเลข! 'แอน สิเรียม'เปิดโหมดแซ่บ สวมชุดวันพีซสีฟ้าอวดหุ่นสวยเป๊ะ

เหยื่อลงเชื่อ! 'หมอดู'อ้างปลุกเสกซิมการ์ด ใช้แล้วดวงพุ่งแรงค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง

4 จุดผ่านแดนสระแก้ว ข้ามได้! ซื้อของจำเป็น-เรียน-รักษา-กลับบ้าน

ฝนถล่มเวเนซุเอลา น้ำท่วมหนักซัดสะพานขาด กระทบการจราจร5รัฐ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved