นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกยังไม่มีความแน่นอน ผนวกกับค่าเงินบาทไทยที่แข็งค่าขึ้น กนอ.ยังเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในนิคมฯ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (Mega-project) ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจที่สำคัญที่ทำให้นักลงทุนที่ยังชะลอการลงทุนมีการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในนิคมฯไทยเพิ่มขึ้น
ประกอบกับเมื่อพิจารณาภาพรวมการเข้ามายื่นคำขอใบอนุมัติ-อนุญาตในการใช้ที่ดินเพื่อประกอบกิจการทั้งกิจการใหม่และขยายกิจการในนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 56 แห่งทั่วประเทศ ในรอบ10 เดือน (ตุลาคม 2561-กรกฎาคม 2562) ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประกอบการที่เข้ามายื่นคำขอใบอนุมัติ-อนุญาตใช้ที่ดินเพี่อประกอบกิจการใหม่และขยายกิจการ รวมทั้งสิ้น 90 ราย แบ่งออกเป็น นิคมฯในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 66 ราย และนิคมฯนอกพื้นที่อีอีซี จำนวน 24 ราย ทำให้เกิดมูลค่าการลงทุน รวมทั้งสิ้น 21,142.83 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3,978 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 อยู่ที่ 99 ราย
ทั้งนี้ จากสถิติการเข้ามายื่นคำขอใช้ที่ดินในพื้นที่นิคมฯ ทำให้เห็นว่าทิศทางการลงทุนของไทย
ยังคงมีการขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทั้งในและภายนอกประเทศ เช่น
เทรดวอร์ หรือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเองก็ตาม รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับค่าเงินบาทไทยที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้ที่อาจจะสงผลกระทบต่อการลงทุนในการขยายกิจการหรือการตั้งโรงงานใหม่ในอนาคต ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ในส่วนของ กนอ.ก็ได้มีการเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ของสถานการณ์โลก
“จากมาตรการที่รัฐบาลได้มีการประกาศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงปัจจัยด้านนโยบายส่งเสริมการลงทุนทั้งสิทธิประโยชนด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี และการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซีไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดการลงทุนให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการจะส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนมีทิศทางการเติบโตได้อย่างแน่นอน” นางสาวสมจิณณ์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้านิคมอุตสาหกรรมสงขลานั้นอยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่ก้าวหน้าไปแล้วกว่า 11% และเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 คาดว่าจะเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการนักลงทุนเข้าใช้พื้นที่ ในไตรมาส 4 ปี 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี