ที่สำนักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน ได้มอบหมายให้นายเกียรติชัย ชัยเรืองยศ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน ประชุมหารือกับบริษัท ไทยเวียดเจ็ท แอร์ จอยท์ สต็อค จำกัด นำโดย Mr.Luong Truong An ตำแหน่ง Executive Vice President
ในการนี้ผู้แทนของ ไทย เวียตเจ็ท ได้นำเสนอแผนการตลาดและแผนการลงทุนของบริษัท ที่มีความสนใจต้องการขยายตลาดการบินในประเทศไทย โดยสนใจที่จะเปิดเที่ยวบินเส้นทางภายในประเทศ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานี และอุดรธานี-เชียงราย ซึ่งเป็นเส้นทางบินใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มทำการบินในช่วงฤดูหนาวปี 2562/2563 และหากผลตอบรับเป็นไปตามเป้าหมาย จะมีการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงต้นปี 2563 นอกจากนี้ทางบริษัท ยังสนใจ และจะพิจารณาเปิดเที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศมายังท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานหัวหินอีกด้วย
นายรณน วิพุธศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ สายการบินไทยเวียดเจ็ท กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทสนใจที่จะเปิดเส้นทางบินไปย่างกุ้ง และ สปป.ลาว จากปัจจุบันมีแค่เส้นทางบินไปเวียดนาม ขณะที่เส้นทางในประเทศนั้นก็มีความสนใจเปิดเส้นทางบินเพิ่มเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนามเข้ามาในไทย ซึ่งจะเน้นเส้นทางบินสู่่เมืองหลักที่สนามบินพร้อมแต่จะเป็น สุราษฎร์ธานี กระบี่ และอุดรธานีหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังศึกษาความเหมาะสม ขณะที่การทำตลาดในเอเชียนั้นจะเน้นเจาะตลาดเครื่องบินเช่าเหมาลำเส้นทางไปจีน
สำหรับ เวียดเจ็ท เป็นสายการบินเวียดนาม ปัจจุบันมีเส้นทางบินเวียดนาม-เชียงใหม่ และ เวียดนาม-ภูเก็ต
นายรณนกล่าวถึงตลาดการบินว่า ในปีนี้สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost Airline) ยังมีการเติบโตอย่างคึกคักตรงข้ามกับตลาดท่องเที่ยวไทยที่เติบโตในอัตราที่ชะลอตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้การที่สายการบินต้นทุนต่ำโตขึ้นส่งผลให้ไทยเวียดเจ็ทต้องปรับเป้าการเติบโตจาก 10% เป็น 20% ในปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มของช่วงฤดูการท่องเที่ยวหน้าหนาวปลายปีนี้ ที่ยังคงมีศักยภาพด้านผู้โดยสารที่จะดันยอดการเติบโตของรายได้สายการบินต้นทุนต่ำคาดว่าปริมาณผู้โดยสารทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 2.4ล้านคน เติบโตจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2.1 ล้่านคน
ในส่วนของตลาดศักยภาพเกิดใหม่ที่จะเป็นมองว่าเป้าหมายการทำตลาดของสายการบินต้นทุนต่ำคือประเทศอินเดีย ในรอบ 10 ปีข้างหน้า ผู้โดยสารจากอินเดียเพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมถึงเข้ามาในไทยด้วย ตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีความแข็งแกร่งต่อเนื่องและจำนวนประชากรมากกว่า 1,000 ล้านคน
ส่วนใน 5-10 ปีข้างหน้านั้น จะพุ่งเป้าการเปิดเส้นทางบินในกลุ่มประเทศกัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม หรือ CLMV โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่มีสนามบินที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวและประชากรมากกว่า 70 ล้านคน
ด้านรายงานข่าวกระทรวงคมนาคม ระบุว่าข้อมูลของ IATA เผยว่าปัจจุบันตลาดการบินอินเดียมีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีค่าเฉลี่ย 20% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเฉพาะในปี 2018 ตลาดการบินอินเดียขยายตัว 18% เติบโตมากกว่าตลาดจีนที่มีการเพียง 11% ในปีก่อน จึงคาดว่าปริมาณผู้โดยสารของอินเดียจะมีมากกว่า 520 ล้านคน ในปี 2037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี