เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (สายปฏิบัติการ) บมจ.ท่าอากาศยานไทย กล่าวว่า ด้วยสภาพของสนามบินดอนเมืองที่เปิดใช้งานมาหลายสิบปี ทำให้เกิดปัญหาหลายจุด จากการสำรวจพบว่าขณะนี้มีปัญหาที่ต้องแก้ไขกว่า 40 จุด ประกอบด้วย 3 กลุ่มปัญหาคือ 1.เรื่องความแออัดของสนามบิน 2.ปัญหาการติดขัดของการจราจร 3.ปัญหาเรื่องความสะดวกสบาย ซึ่งเริ่มดำเนินการแก้ไขไปแล้วบางส่วนคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี จึงจะแก้ได้ครบทุกปัญหาโดยใช้งบประมาณ 300 ล้านบาทขณะนี้กำลังขอสนับสนุนงบประมาณอยู่
มาตรการเร่งด่วนเพื่อลดความแออัดของสนามบินดอนเมืองนั้น เบื้องต้นจะลดปัญหาความแออัด บริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทาง ด้วยการเพิ่มพื้นที่ Visa On Arrival จาก 639 ตารางเมตรเป็น 900 ตารางเมตร ขณะนี้ดำเนินการเสร็จและเปิดบริการแล้ว รวมทั้งปรับปรุงและขยายพื้นที่ Visa On Arrival ด้านทิศเหนือ จาก 900 ตารางเมตร เป็น 1,500 ตารางเมตร นอกจากนี้ได้ประสานไปทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อเพิ่มช่องตรวจ ตม. ขาเข้า จาก 39 ช่องตรวจ เป็น 51 ช่องตรวจ ส่วนจุดตรวจ ตม.ขาออกเพิ่มจาก 36 ช่องตรวจ เป็น 40 ช่องตรวจ และเพิ่มบุคลากรแล้ว 170 คน
“เพื่อลดความแออัดชั่วโมงเร่งด่วนที่มีผู้โดยสารมาก เราจะใช้เคาน์เตอร์เช็คอิน และด่นตรวจ ตม.ร่วมกันระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 (ระหว่างประเทศ) และอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (ภายในประเทศ) โดยจะนำผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศชั่วโมงเร่งด่วนของสายการบินมาทำการเช็คอินและผ่านด่านจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ถือเป็นแนวทางในการใช้ศักยภาพร่วมกันของ 2 อาคาร คาดระยะสั้นนี้จะใช้ผ่อนคลายปัญหาความแออัดได้ระดับหนึ่ง”
ส่วนการเพิ่มศักยภาพสนามบินดอนเมืองที่เป็นโครงการระยะยาวนั้นเรามีแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 3 มูลค่าลงทุน 38,000-40,000 ล้านบาท โดยจะเร่งรัดให้โครงการเสร็จภายในปี 2566 ซึ่งจะช่วยให้ท่าอากาศยานดอนเมืองรองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบัน 30 ล้านคนต่อปี
โครงการดังกล่าวประกอบไปด้วย 6 กลุ่มงานหลักๆ ได้แก่ กลุ่มงานที่ 1 งานพัฒนาด้านทิศใต้ กลุ่มงานที่ 2 งานพัฒนาพื้นที่ด้านทิศเหนือ กลุ่มงานที่ 3 งานก่อสร้างในพื้นที่เขตปฏิบัติการการบิน กลุ่มงานที่ 4 งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ และอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 2-4 กลุ่มงานที่ 5 งานสนับสนุนโครงการพัฒนา และกลุ่มงานที่ 6 งานสิ่งแวดล้อมมีงานหลักที่สำคัญเช่น การรื้ออาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคารเทียบเครื่องบิน 6 เดิม และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 ซึ่งจะมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ 18 ล้านคนต่อปี ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าภายหลังการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานเสร็จจะทำให้ปัญหาคอขวดที่ทำให้เกิดความแออัดจากต้นเหตุอาคารผู้โดยสารหมดไป แต่ก็จะเกิดปัญหาคอขวดจากทางวิ่ง หรือรันเวย์ ซึ่งลักษณะทางกายภาพดอนเมืองมีแค่ 2 รันเวย์ รองรับเที่ยวบินได้สูงสุด 52 เที่ยวบิน/ชม. หรือราว 700-800 เที่ยวบิน/วัน ตอนนี้เที่ยวบินเต็มเพดานแล้ว การขยายก่อสร้างรันเวย์ใหม่ไม่สามารถทำได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือต้องไปเจรจากับสายการบินเพิ่มขนาดเครื่องบินแต่ละเที่ยวบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในเส้นทางที่มีศักยภาพ โดยจะขอให้เอกชนขยายขนาดเครื่องบินเป็นแบบลำตัวกว้าง (Wide Body) บรรทุกผู้โดยสารให้มากกว่า 300 คนต่อเที่ยวบิน จากปัจจุบันใช้เครื่องบินขนาดเล็กบรรทุกผู้โดยสาร 100-200 คนต่อเที่ยวบิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี