นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และการรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าในปีนี้ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จะติดลบ 7% โดยตลาดคอนโดมิเนียมคาดว่าจะติดลบ 14% และตลาดบ้านแนวราบจะติดลบ 4% ส่วนใหญ่เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และจากมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน (LTV) สำหรับครึ่งปีแรกที่ผ่านมาภาคอสังหาริมทรัพย์ติดลบ 5% ถึงแม้ในช่วง 3 เดือนแรก ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวมากกว่า 10% ซึ่งเป็นผลจากผู้ประกอบการเร่งการโอนกรรมสิทธิ์ หรือทำสัญญา ก่อนที่มาตรการ LTV จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ไตรมาส 2 หลังจากมาตรการอสังหาริมทรัพย์มีผลบังคับใช้แล้วทำให้ภาพรวมชะลอลงมากกว่า 10% และทำให้ครึ่งปีแรกติดลบ 5% ดังกล่าว ส่วนภาพรวมในครึ่งปีหลังยังขยายตัวต่ำเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในทุกประเภททั้งคอนโดมิเนียม และที่อยู่อาศัยแนวราบ
“คอนโดฯ เป็นตลาดที่น่าเป็นห่วงเพราะติดลบค่อนข้างสูงหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยคอนโดฯในไตรมาสที่ 1 ติดลบ 14% ไตรมาส 2 ติดลบ 20% ไตรมาสที่ 3 ติดลบ 14% และคาดว่าไตรมาสที่ 4 จะติดลบถึง 20% โดยปีนี้มีจำนวนหน่วยผังเหลือขาย หรือสินค้าที่ทั้งวางแผนก่อสร้างและเปิดตัวและสร้างเสร็จสูงถึง 1.5 แสนยูนิต ขณะที่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.3 แสนยูนิตเท่านั้น”
ปัจจุบันมีสินค้าเหลือขายในตลาดจำนวนมากทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวโดยการเลื่อนเปิดตัว หรือเปิดตัวระหว่างก่อสร้างมีการขายดาวน์ไปก่อนขณะเดียวกันก็เร่งขายโครงการเก่าให้หมดไม่เช่นนั้นจะเพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และได้รับเงินคืนกลับมาช้าสิ่งสำคัญที่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอลง เป็นผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมถึงผลกระทบจากมาตรการ LTV โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุนชะลอการซื้อ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมทั้งหมด 60,000 ยูนิต ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ปริมาณหน่วยที่อยู่อาศัยรอการขาย ทั้งส่วนที่สร้างเสร็จแล้ว กำลังก่อสร้าง และยังไม่ก่อสร้าง ครึ่งปีแรกมีอยู่ 1.5 แสนหน่วย เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่อยู่ระดับ 1.3 แสนหน่วย สูงเกินไป 2 หมื่นหน่วยแต่จากการสอบถามผู้ประกอบการยังเชื่อว่าจะสามารถระบายสต๊อกได้ และยังไม่เกิดเหตุซ้ำรอยวิกฤติปี 2540ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระดับราคาซื้อขายจริง หลังหักโปรโมชั่นแล้ว ค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2-3% โดยเอกชนต้องเร่งปรับตัวด้วยการชะลอการเปิดโครงการแนวสูง และขยายโครงการแนวราบ โดยเฉพาะบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่ม Gen Y ที่ทำงานมาระยะหนึ่งถึงเวลามีบ้านเป็นของตนเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี