นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเดินทางเยือนมณฑลกวางตุ้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ว่า สำหรับค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องเป็นเรื่องของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ที่ดูแล ขณะที่รัฐบาลไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงได้ อย่างไรก็ดีธปท.ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้
ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินบาท เป็นเพราะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่องมีความแข็งแกร่ง เกินดุลบัญชีเดินสะพัด แม้การส่งออกชะลอตัว แต่ยังเกินดุลต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมส่งเสริมให้ใช้โอกาสนี้นำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์สำคัญ เพื่อให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนตามนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายอาจช่วยลดการแข็งค่าของเงินบาท เมื่อรัฐบาลเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานแนวโน้มระยะยาวจะช่วยให้ประเทศไทยพ้นจากการเป็นประเทศติดกับดักรายได้ปานกลางเหมือน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันทำได้มาแล้ว
ขณะที่แหล่งข่าวในแวดวงการเงินวิเคราะห์ว่า แนวโน้มเงินบาทสิ้นปี น่าจะอยู่ที่ระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนการแข็งค่าต่อเนื่องจากต้นปีสาเหตุมาจากการเกินดุลการค้าและเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นปัจจัยหลัก
ในวันเดียวกัน นายโจนาธาน ออสทรี รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ออกรายงาน ภาพรวมรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ว่า
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ปี 2562 เติบโตร้อยละ 2.9 ซึ่งเป็นการปรับประมาณการลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมาที่คาดว่าโตร้อยละ 3.5 เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากผลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ขณะที่ปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3
อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟเห็นว่าประเทศไทยสามารถใช้นโยบายการคลังและนโยบายการเงิน เพื่อประคองภาวะเศรษฐกิจไทยไม่ให้ทรุดตัวลง รวมทั้งควรส่งเสริมนโยบายการออมเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ แนะให้ประเทศต่างๆ ใช้นโยบายการคลัง การเงิน ที่มีอยู่สนับสนุนการขยายตัวของการบริโภคในประเทศ พร้อมให้ระมัดระวังผลกระทบจากภาวะการเงินโลกที่ผ่อนคลายมากขึ้น จะทำให้เกิดการก่อหนี้มากขึ้นและเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน ดังนั้น ประเทศที่มีความเสี่ยงต้องมีมาตรการลดปัญหาหนี้สินภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี