นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)หรือ สภาพัฒน์เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)ไตรมาสที่ 4/2565 ขยายตัว 1.4% ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการขยายตัว 4.6% ในไตรมาสที่ 3/2565 ส่งผลให้ทั้งปี 2565 จีดีพีขยายตัวแค่ 2.6% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.2% เนื่องจากยังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวการบริโภคยังไม่ขยายตัวมากนัก ค่าตอบแทนแรงงานติดลบ -1.4%
“การที่เศรษฐกิจปี’65 ขยายตัวเพียง 2.6% จากที่เคยคาดไว้ที่ 3.2% นั้น เป็นเพราะเดิมมองว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มชะลอตัวลงในช่วงปี’66 แต่กลับเริ่มชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/65 เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้การส่งออกของไทยหดตัวแรงในช่วงไตรมาส 4/65 ทำให้การประมาณคลาดเคลื่อนไปมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลสำคัญจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก”
ในช่วงไตรมาส 4/2565 ด้านการผลิต การผลิตภาคเกษตร ขยายตัว 3.6% จากผลผลิตพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น อ้อย ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด
เลี้ยงสัตว์ ผัก และผลไม้ การผลิตในภาคอุตสาหกรรม ลดลง 4.6% จากการขยายตัว 4.5% ในไตรมาสที่ 3/2565 ตามการลดลงของการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม เป็นสำคัญ ขณะที่ภาคบริการขยายตัว 4.2% เทียบกับที่ขยายตัว 5.5% ในไตรมาสก่อนหน้า ด้านการใช้จ่าย การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค-บริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และการลงทุนรวม ขยายตัว 5.7% และ 3.9% ตามลำดับ ส่วนการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาลลดลง 8.0% การส่งออกและการนำเข้าสินค้าและบริการ ลดลง 0.7% และ 4.6% ตามลำดับหลังปรับปัจจัยฤดูกาลออก
แล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2565 ลดลง 1.5%
การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค-บริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน ขยายตัว 5.7% ชะลอลงเมื่อเทียบกับการขยายตัว 9.1% ในไตรมาสที่ 3/2565 โดยการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนขยายตัวต่อเนื่อง ตามการใช้จ่ายในหมวดอาหาร หมวดสินค้ากึ่งคงทนและหมวดบริการชะลอตัวลง ขณะที่การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทน หดตัวตามการลดลงของค่าซื้อยานพาหนะ เป็นสำคัญการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาล ลดลง 8.0% ต่อเนื่องจากการลดลง 1.5% ในไตรมาสที่ 3/2565 โดยค่าตอบแทนแรงงาน และรายจ่ายค่าซื้อสินค้าและบริการ ลดลง 1.4% และ 0.5% ตามลำดับ ส่วนการโอนเพื่อสวัสดิการสังคมที่ไม่เป็นตัวเงินสำหรับสินค้าและบริการในระบบตลาด ลดลง 37.6% ต่อเนื่องจากการลดลง 1.2% ในไตรมาสที่ 3/2565 เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกองทุนประกันสังคม
การลงทุนรวม ขยายตัว 3.9% ชะลอลงจากการขยายตัว 5.5% ในไตรมาสที่ 3/2565 การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.5% จากที่ขยายตัว 11.2% ในไตรมาสที่ 3/2565 ชะลอตัวลงทั้งการลงทุนด้านการก่อสร้าง และการลงทุนด้านเครื่องจักรเครื่องมือ สำหรับการลงทุนภาครัฐ ขยายตัว 1.5% ปรับตัวดีขึ้นจากการลดลง 6.8% ในไตรมาสก่อนหน้า จากการขยายตัวในการลงทุนด้านการก่อสร้าง ขณะที่การลงทุนในเครื่องจักรเครื่องมือยังคงลดลง
สภาพัฒน์คาดการณ์ว่า จีดีพีไทยในปี 2566 ขยายตัวช่วง 2.7-3.7% หรือเฉลี่ย 3.2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3-4% มีปัจจัยหลักจาก การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3.2% การลงทุนขยายตัว 2.2% การส่งออกติดลบ 1.6% อัตราเงินเฟ้อ 2.5-3.5% โดยภาคการท่องเที่ยวยังเป็นตัวสนับสนุนหลักคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้าไทย 28.5 ล้านคน จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้เข้าประเทศ การขยายตัวของการลงทุนภารรัฐและเอกชน การบริโภคของประชาชน เริ่มสูงขึ้น
ปัจจัยที่ต้องจับตาก็คือการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกและความผันผวนทางการเงินโลก ภาระหนี้สินภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ ท่ามกลางแนวโน้มดอกเบี้ยสูงขึ้น การเข้าสู่บรรยากาศ การเลือกตั้งต้องลุ้นรัฐบาลหลังเลือกตั้งรัฐบาลใหม่จะมีนโยบายฟื้นเศรษฐกิจไทยอย่างไร การเติมเงินในบัตรสวัสดิการฯ จะเป็นการเพิ่มแรงซื้อให้เศรษฐกิจ โดยขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังตรวจสอบและอนุมัติผู้มีสิทธิ์ เพื่อเตรียมโอนเงินรอบใหม่ให้หลังเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาภาระหนี้สินภาคครัวเรือน เดินหน้าส่งเสริมการลงทุนเอกชน การส่งทำตลาดส่งออกในเชิงรุก ทดแทนในบางประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี