นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการตั๋วร่วม ว่าการพัฒนาระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) ยังติดปัญหาความล่าช้าเรื่องบัตร EMV (Euro/ MasterCard และ Visa)เพื่อเป็นการใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ โดยไม่ต้องจ่ายเงินสดหรือเติมเงินเข้าบัตรโดยสาร แต่เป็นการตัดเงินปลายเดือนเหมือนบัตรเครดิตทั่วไปจากการติดตามข้อมูลในการดำเนินการพัฒนาตั๋วร่วม
ก่อนหน้านี้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ได้รับมอบหมายให้พัฒนาระบบตั๋วโดยสารเชื่อมโยงบัตรธุรกรรมการเงิน บัตรเครดิต และระบบ E-Money ต่างๆ ซึ่งจากการหารือดังกล่าวได้ในที่ประชุมได้มีการรายงานว่าจะต้องใช้เวลาอีก 18 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ (ประมาณต้นปี 2564)จากเดิมที่มีกำหนดการเริ่มใช้บัตรระบบ EMV ในช่วงปลายปี 2562
อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมได้ให้ผู้ประกอบการและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาว่าการดำเนินการลักษณะดังกล่าวจะใช้เวลาเท่าใด และจะต้องใช้เงินทุนมากน้อยแค่ไหนเพื่อให้แนวทางดังกล่าวสามารถใช้ได้ 5-6 เดือนข้างหน้า เมื่อทุกรายได้ข้อสรุปก็ขอให้กลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบภายใน 2 สัปดาห์ หากเปรียบเทียบระยะเวลาทำและเงินลงทุนไม่สูงมากก็จะดำเนินการเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่ออนุมัติดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ระหว่างการพัฒนาบัตร EMV นั้นมีความล่าช้าทางกระทรวงคมนาคมจึงมีแนวคิดที่จะผลักดันให้บัตรโดยสารรถไฟฟ้าได้ก่อน เช่น Rabbit Card ของบีทีเอส และ MRT Card ของรถไฟฟ้าใต้ดินรวมถึงบัตรของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ใช้ร่วมกันได้ก่อน เช่น การใช้ RabbitCard ขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกสาย หรือการใช้ MRT Card ขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกสายแต่ต้องเติมเงินกับเคาน์เตอร์ที่เป็นเจ้าของบัตร ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานและเอกชนไปสรุปข้อมูลร่วมกันก่อนกลับมาเสนอ รูปแบบ ค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการพัฒนา เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี