นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน และรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 การรถไฟฯ มีแผนที่จะเดินหน้าเปิดประมูลโครงการทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ โดยจะมีการเร่งเปิดประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ในส่วนของสัญญาก่อสร้างโครงการที่ยังค้างอยู่ประมาณ 4-5 สัญญา มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท นั้นจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 1-2 ของปีหน้า ส่วนการก่อสร้างสัญญาที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก 3.5 กิโลเมตร ก่อสร้างไปได้ 80-90% แล้ว ขณะที่สัญญาก่อสร้างที่จะเปิดประมูลคือ ดอนเมือง-บางซื่อ

ทั้งนี้แผนการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ในปีหน้าคาดว่าจะมีการผลักดันสายอีสานและสายใต้เพื่อเปิดประมูลโครงการ ตามแผนพัฒนาระบบรางตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะมีการทยอยนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอประกวดราคา ได้แก่ รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 26,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี มูลค่า 36,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 56,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี มูลค่า 23,000 ล้านบาท

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร วงเงิน 179,413 ล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) วงเงิน 50,600 ล้านบาท ว่า จากการประชุมคณะทำงานเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมานั้น ได้มีการกำหนดให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Forward Rate) ในวันลงนามสัญญา 2.3 เพื่อความเป็นธรรมของทั้งฝ่ายไทย และฝ่ายจีน

โดยขั้นตอนต่อไปจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (JC) ครั้งที่ 28 ที่คาดว่าจะจัดให้มีการประชุมในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบ พร้อมด้วยการเลือกใช้สกุลเงินรวมถึงการกำหนดวันลงนามสัญญาต่อไป

มีรายงานแจ้งว่า สำหรับการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ในปีหน้า และจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) คือ 1.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 2.รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 3.รถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 4.รถไฟทางคู่ ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี รวมมูลค่า 141,000 ล้านบาท