สุริยะ แจง เลื่อนตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาท ใช้จริง 15พ.ย. เหตุ กฏษฏีกา เบรกใช้งบ

สุริยะ แจง เลื่อนตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาท ใช้จริง 15พ.ย. เหตุ กฏษฏีกา เบรกใช้งบ

วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 13.41 น.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการดำเนินมาตรการอัตราค่ารถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือ 20 บาทตลอดสาย ที่ในปัจจุบันได้ดำเนินการมาแล้วเกือบ 2 ปีในโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน โดยจากผลการดำเนินนโยบาย พบว่า ได้ผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และมั่นใจว่า ในอนาคตปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากนโยบายดังกล่าว ช่วยลดค่าครองชีพในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียม มีความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยลดรถยนต์บนถนน ลดอุบัติเหตุ และมลพิษทางอากาศอย่างมีนัยสำคัญด้วย

สำหรับในขณะนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) 2 ฉบับ เพื่อสนับสนุนมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ระยะที่ 2 ประกอบด้วย 1. ร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... (พ.ร.บ.ตั๋วร่วม) และ 2. พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 (พ.ร.บ.รฟม.) โดยขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ส.ส.) ครบทุกมาตราแล้ว และผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อไป


ทั้งนี้ หากดูจากกรอบระยะเวลาในตอนนี้ พบว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ฉบับตามขั้นตอนของกฎหมาย อาจจะไม่ทันกับกำหนดการเปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เนื่องจากการประกาศใช้มาตรการฯ จะต้องรอการประกาศกฎหมายลูก ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 45 วัน คาดว่า จะสามารถประกาศใช้ได้ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 10 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีทอง, สีเหลือง, สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีม่วง, สีแดง และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) รวมระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร (กม.) ทั้งสิ้น 194 สถานี

สำหรับการประกาศใช้มาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. ตั๋วร่วม คือ การจัดตั้ง "กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม" ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการชดเชยส่วนต่างของรายได้ค่าโดยสารให้แก่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสายได้จริง จึงต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่ต้องแก้กฎหมาย สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับกระทรวงการคลัง กำหนดให้ต้องแก้ไข พ.ร.บ.รฟม. ด้วย

ขณะเดียวกัน ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ฉบับในขณะนี้ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาหาแนวทางอื่น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน เช่น การขอรับการจัดสรรงบกลาง แต่ภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ระบุว่า ไม่สามารถเสนอของบกลางได้ เนื่องจาก ไม่ใช่เหตุเร่งด่วน รวมถึงแนวทางการเริ่มมาตรการก่อน แล้วเมื่อ พ.ร.บ.ฯ ผ่านการพิจารณาและมีผลบังคับใช้ แล้วนำมาชำระย้อนหลังนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งยืนยันว่า ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม ได้พยายามดำเนินการในทุกวิธีทาง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกเส้นทางตามที่เคยกำหนด เพื่อลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้พี่น้องประชาชน แต่ด้วยจะต้องรอกระบวนการทางกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงนั้น ยืนยันว่ายังคงใช้ราคาเดิม ซึ่งประชาชนยังคงใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนขอกราบขอโทษประชาชน ซึ่งภายหลังจากนี้กระทรวงฯและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายอย่างแน่นอน

- 030 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top