บุกเบิกปลายแหลมญวน! ‘เซียนธุรกิจไทย’ แนะดัน ‘ก่าเมา’ รุกสร้างท่าเรือเชื่อม3ปท.เพื่อนบ้านเปิดท่องเที่ยวทางทะเล กินช้อปแหล่งปูอันดับ 1 เวียดนาม ด้าน ‘จังหวัด’ รับลูกจี้เร่งชงเรื่องเสนอรัฐบาลผุด ‘พอร์ท นัมกัง’
18 ธ.ค.62 บริษัท เวียดนาม เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการค้าการลงทุนในประเทศเวียดนาม ได้ร่วมมือกับ คณะกรรมการประชาชนจังหวัด ก่าเมา ประเทศเวียดนาม (The People’s Committee of Ca Mau province) ในการพัฒนาการค้าการลงทุนร่วมกัน และทางจังหวัด ก่าเมา ได้จัดงาน The Culture – Tourism week of Ca Mau Cape 2019 เมื่อวันที่ 6 – 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา จัดขึ้นบริเวณจุดใต้สุดของประเทศเวียดนาม จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “ปลายแหลมญวน”
โดยในวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ณ จุดชมวิวปลายแหลมญวน ในเวลา 20.00น. ซึ่งได้มีพิธีเชิญธงชาติเวียดนาม จากเมืองฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวง เปรียบเสมือนศูนย์กลางของประเทศเวียดนาม มาประดับยังยอดประภาคาร ณ ปลายแหลม ท่ามกลางแสงสีการแสดงอย่างตระการตา โดยได้รับเกียรติจากนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน
นายพีรพล ตริยะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวียดนาม เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวตอนหนึ่งในช่วงงานสัมมนาที่จัดขึ้นในช่วงเช้าวันที่10ธ.ค.ก่อนจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงค่ำ ซึ่งมีผู้แทนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจากทั้งไทย เวียดนาม และกัมพูชาเข้าร่วมสัมมนาว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ สำหรับจังหวัดก่าเมา การเดินทางถือว่าใช้เวลามากพอสมควร จึงจำเป็นจะต้องมีการบุกเบิก เน้นพัฒนาด้านการท่องเที่ยวในประเทศ การสัญจรทั้งทางบก ทางน้ำ และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต เราจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสะดวก
“เราจะต้องสร้างความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศที่เป็นจุดติดต่อกันโดยเฉพาะทางน้ำ ทั้งภาคตะวันออกของไทย เวียดนาม และกัมพูชา โดยการจัดการท่องเที่ยวทางทะเลแบบเชื่อมโยง อย่างเช่น ท่าเรือจังหวัดตราดของไทย เชื่อมมาที่ท่าเรือสีหนุ กัมพูชา และต่อไปยังก่าเมา เวียดนามได้ ดังนั้น จังหวัดก่าเมา เวียดนามจะต้องมีการสร้างท่าเรือสำหรับการท่องเที่ยวแบบวิถีชีวิต มีการซื้อขายสินค้าทางทะเลได้ มีร้านอาหารเล็กๆที่ท่าเรือ มีของทะเลสดๆกิน พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย เพื่อนำไปสู่ธุรกิจขั้นสูงต่อไป เทคโนโลยีความก้าวหน้าในจังหวัดก่าเมาก็จะตามมา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวียดนาม เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าว
นายพีรพล กล่าวด้วยว่า ถ้าเราทำสำเร็จด้วยความร่วมมือกันระหว่างไทย เวียดนาม และกัมพูชา เราจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งและพัฒนาทางทะเล อีก20ปีข้างหน้าเราอาจเห็นตึกสูงในก่าเมา ซึ่งก่าเมายังมีของดีอีกมากที่จะพัฒนาเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะแหล่งเพาะพันธุ์ปูทะเลทางธรรมชาติ ที่ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของเวียดนาม เราจะทำอย่างให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามากินปูที่อร่อยที่สุดในก่าเมา อย่างไรก็ตาม ในการมาร่วมเปิดงานที่จุดใต้สุดของเวียดนาม จากหลักกิโลเมตรที่ 0 ต่อจากนี้จะมีหลักไมล์ที่ 1 และหลักไมล์ความสำเร็จของทั้ง 3 ชาติต่อไป ตนหวังว่าจะเห็นสิ่งเหล่านี้สำเร็จในอนาคต และอยากให้รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
ด้านนายเล วัน สือ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ก่าเมา ประเทศเวียดนาม ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่คณะสื่อมวลชนไทยที่เดินทางไปเยี่ยมชมงานว่า ทางจังหวัดก่าเมา กำลังดำเนินการลงทุนด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยเฉพาะทางทะเล แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่พอใจของคณะทำงานในจังหวัดก่าเมาเท่าที่ควร ดังนั้นจึงต้องคาดหวัง ดำเนินการให้รวดเร็วมากกว่านี้ ซึ่งทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่เวียดนาม ไทย และกัมพูชา ได้มีการตกลงที่จะสร้างเส้นทาง R10 เพื่อพัฒนาท่องเที่ยว เศรษฐกิจร่วมกัน เมื่อพัฒนาแล้วก็จะมีการเชื่อมโยงการค้าระหว่างกัน มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้เพิ่มขึ้น
“ขณะนี้รัฐบาลของ 3 ประเทศได้มีการประชุมหารือร่วมกันบ่อยครั้งขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล ปัจจุบันประเทศไทยมีท่าเรือพร้อมแล้ว ทางกัมพูชาก็พร้อมแล้ว ทางเวียดนามก็มีท่าเรือที่พร้อมแต่อยู่ที่เกาะฟู กร๊วก ส่วนก่าเมามีท่าเรือที่เขตนัมกัง แต่อยู่ลึกเข้าไปในผืนดิน ไม่ได้อยู่ติดอ่าว ส่งผลให้การสัญจรจากท่าเรืออ่าวไทยมานัมกังค่อนข้างยุ่งยาก จึงมีการเสนอร่วมกันให้ก่าเมา รีบดำเนินการปรับปรุงขยายท่าเรือที่นัมกังให้เร็วยิ่งขึ้นกว่านี้ รองรับการพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคตมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น เรือนานาชาติที่จะเข้ามาแวะจอดเพื่อท่องเที่ยว” รองผู้ว่าฯ ก่าเมา ระบุ
นายเล วัน สือ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันทางจังหวัดตราด กับจังหวัดก่าเมา ได้ทำข้อตกลงกันในเรื่องเหล่านี้แล้วหลายๆด้าน ทางก่าเมา ก็เห็นความสำคัญของท่าเรือในระยะยาว เพราะจะเป็นการรองรับการลงทุนจากไทย อย่างไรก็ตามเรากำลังดำเนินการในเรื่องนี้ โดยจังหวัดก่าเมาได้แจ้งไปยังรัฐบาลเวียดนามให้สนับสนุนการสร้างท่าเรือให้เต็มที่ที่สุด ดังนั้นโปรเจ็คนี้จะต้องเกิดอย่างจริงจังให้ได้
รองผู้ว่าฯ ก่าเมา ยังกล่าวถึงสิทธิประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเข้ามาลงทุนว่า จะมีนโยบายสร้างแรงจูงใจ เช่น อัตราภาษีเงินได้พิเศษนิติบุคคล การยกเว้นภาษี การลดค่าเช่าที่ดิน การเช่าผิวน้ำ และค่าธรรมเนียมการใช้ที่ดิน เป็นต้น นอกจากนี้ระยะเวลาในการโอน หรือเช่าที่ดินจะขึ้นอยู่กับพิจารณาบนพื้นฐาน จำนวนเงินลงทุน และการตัดสินใจของการลงทุน ไม่เกิน 50 - 70 ปี รวมไปถึงการดำเนินการอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามนโยบายสิทธิประโยชน์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลางพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งแวดล้อม การจ้างงาน หรือวัตถุดิบที่มีจำนวนมาก เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี