เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศสหรัฐฯและอิหร่านที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทางกระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและเตรียมการหากเกิดสถานการณ์ที่วิกฤตเพิ่มขึ้น ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ราคาน้ำมันดิบล่าสุดขยับขึ้น 4% อยู่ที่ 69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
โดยในวันนี้ (6 มกราคม) ได้มีการประชุมหารือและได้เตรียมมาตราการเพื่อรองรับเหตุดังกล่าวซึ่งได้มีการเตรียมปริมาณสำรองน้ำมันดิบไว้ให้เพียงพอ โดย ณ วันที่ 5 มกราคม 2563 ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบประมาณ 2,988 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 1,144 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,468 ล้านลิตร รวมจำนวนวันที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด 50 วัน ส่วนปริมาณสำรองก๊าซ LPG ทั้งหมดประมาณ 101 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 17 วัน สำหรับใช้ในภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ ได้มีการบริหารจัดการเพื่อกระจายความเสี่ยงระยะยาว โดยกลุ่ม ปตท.ได้ปรับลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางที่เคยสูงถึงกว่า 74% และล่าสุดปรับลดเหลือประมาณ 50% ขณะที่ด้านการผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ปัจจุบันผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 1.3 แสนบาร์เรล/วัน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะขอความร่วมมือในการงดส่งออกน้ำมันดิบซึ่งจะได้ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นประมาณ 25,000 บาร์เรล/วัน และหากมีเหตุฉุกเฉิน สามารถเพิ่มการผลิตภายในประเทศให้มากขึ้นอีก 36,000 บาร์เรล/วัน โดยจะขอความร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันให้หาทางออกด้านเทคนิคเพื่อใช้น้ำมันดิบในประเทศทั้งหมด
ด้านบริหารราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการราคาน้ำมันในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งขณะนี้สถานะกองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่37,378 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนสำหรับน้ำมัน 42,592 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติลบที่ 5,214 ล้านบาท โดยในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 กระทรวงพลังงานจะการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และวางแนวทางรับมือต่อไป
"ยืนยันว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่เกิดขึ้นยังอยู่ในกรอบที่สามารถรับมือได้ เพราะที่ผ่านมาได้เตรียมแผนการรับมือกับสภาวะฉุกเฉินล่วงหน้าไว้แล้วร่วมกับหน่วยงานในสังกัด พร้อมมองว่าหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับขึ้นแตะ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทางกระทรวงพลังงานก็จะมีมาตรการที่จะเข้มข้นเพื่อรองรับกับสถานการณ์ต่อไป" นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีราคาขายปลีกน้ำมันที่มีการปรับขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว ถึงแม้จะมีมติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและชดเชยจากกองทุนฯ เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านาทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลง 1 บาทก็ตาม แต่ยืนยันว่ามติดังกล่าวยังคงดำเนินการอยู่ถึงวันที่ 10 มกราคม2563 ซึ่งหากไม่มีมาตรการดังกล่าวราคาขายปลีกจะปรับขึ้นอีก 1 บาทจากราคาปัจจุบัน โดยขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่ากระทรวงพลังงานจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ด้านความมั่นคงของการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีใช้อย่างต่อเนื่อง และราคาไม่ให้เกิดความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี