“จุรินทร์” นำ กกร.เคาะ “หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ” เป็นสินค้าควบคุม ชงเข้า ครม.พรุ่งนี้ ขณะที่ อย.ชี้ประชาชนทั่วไปใช้ผ้าป้องกันแทนได้
3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1/2563 เพื่อพิจารณากำหนดสินค้าควบคุมพ.ศ.2562 เพิ่มเติม คือ 1.หน้ากากอนามัย 2.เส้นใยโพลีโพรพิลีน(สปันบอนด์) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย 3.ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ โดยอาศัยอำนาจทางกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 การกำหนดมาตรการบริหารจัดการสินค้าควบคุมพ.ศ. 2562 (เพิ่มเติม)
หลังการประชุม นายจุรินทร์ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ นพ.นิพิฐ พิรเวช แถลงสรุปการประชุม กกร.ว่า ผลการประชุมมีประเด็นสำคัญให้กำหนดหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนถัดนี้ไปคือจะต้องมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2563) และถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก็จะเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ในทันที
“ถ้าที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้วันพรุ่งนี้ ก็จะทำให้สินค้าควบคุมตามกฎหมายเพิ่มขึ้นจาก 52 รายการ ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็น 54 รายการ ถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบให้ทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุมก็จะทำให้สามารถดำเนินการมาตรการต่างๆตามมาได้ในการที่จะควบคุมทั้งในเรื่องของปริมาณและในเรื่องของราคา เช่น กรมการค้าภายในสามารถที่จะกำหนดให้ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่ายผู้นำเข้าและผู้ส่งออกต้องแจ้งข้อมูลในเรื่องของต้นทุนราคาซื้อราคาขายปริมาณการผลิตปริมาณการนำเข้าปริมาณการส่งออกหรือว่าสต๊อกได้ในทันที” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นสามารถที่จะกำหนดให้ผู้ผลิตผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายสามารถที่จะกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศหรือในพื้นที่ที่ขาดแคลนตามกฏหมายได้รวมทั้งสามารถที่จะกำหนดให้มีการปิดราคาขายปลีก เป็นต้นซึ่งมาตรการนี้ก็จะกำหนดตามมาเมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วและจะแถลงให้ทราบต่อไป รวมทั้งการที่จะกำหนดให้การส่งออกต้องขออนุญาตในปริมาณจำนวนที่กำหนดได้ก็จะเป็นมาตรการที่กำลังตามมา เพื่อให้ปริมาณหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมีปริมาณใช้อย่างเพียงพอในประเทศเสียก่อน
“ผมได้ตั้งวอร์รูมขึ้นมา เพื่อติดตามสถานการณ์ของไวรัสโคโรน่าอย่างใกล้ชิดเฉพาะในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์เพื่อติดตามสถานการณ์ของไวรัสเช่นเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาสินค้าต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการและราคาที่เป็นธรรมกับผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือรวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วยและการให้มีอำนาจกำหนดมาตรการต่างๆที่จะบังคับใช้ต่อไปโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานและอธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องโดยอำนาจในการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขาดแคลนและจัดการตามกฎหมายกับผู้ที่กักตุนหรือว่ากระทำผิดกฎหมายได้ในทันที” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า โดยภาวะปกติเท่าที่กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์และรวบรวมตัวเลขมาทั้งหมดแล้วพบว่าปริมาณการผลิตกับปริมาณการใช้ในภาวะปกตินั้นอยู่ในภาวะที่สมดุล แต่เมื่อเกิดกรณีไวรัสโคโรน่าขึ้นมาก็ได้ประเมินตัวเลขว่าอาจจะมีความต้องการใช้เพิ่มเติมขึ้นจำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมในภาวะปกติตัวเลขการใช้หน้ากากอนามัยภายในประเทศอยู่ที่เดือนละ 30 ล้านชิ้นแต่ในช่วงถัดจากนี้ไปและในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นอาจจะมีความต้องการใช้เพิ่มเติมขึ้นเป็น 40 ล้านชิ้นถึง 50 ล้านชิ้นจึงเป็นที่มาที่จำเป็นจะต้องประสานงานเร่งให้มีการผลิตเพิ่มขึ้นโดยเร็วเพื่อให้สนองกับความต้องการใช้ภายในประเทศ
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้เชิญผู้ผลิตมาพบแล้วหนึ่งครั้ง และวันนี้ในช่วงบ่ายก็จะได้มีการพบกับผู้ผลิตและผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะกำหนดมาตรการร่วมกันปรากฏว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดภาวะที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งเกรงว่าจะไม่มีหน้ากากอนามัยหรือเจลล้างมือพอที่จะใช้สำหรับป้องกันโรคไวรัสโคโรน่าจึงเป็นที่มาที่อาจจะมีบางพื้นที่ที่ไปซื้อมาเก็บไว้เกินปริมาณความต้องการใช้ปกติจึงทำให้เกิดภาวะขาดแคนสินค้าเป็นจุด ในบางพื้นที่บางจังหวัดหรือในบางจังหวัดก็อาจจะขาดไปในภาพรวม รวมทั้งอาจจะเกิดจากการมีการนำออกไปนอกประเทศมากเกินภาวะปกติอาจส่งผลให้ตัวเลขภายในไม่พอใช้จึงเป็นที่มาที่ทำเป็นจะต้องกำหนดให้ทั้งสองตัวนี้เป็นสินค้าควบคุมเพื่อกรมการค้าภายในและวอร์รูมของกระทรวงพาณิชย์สามารถใช้มาตรการต่างๆที่จะตามมาได้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ผู้บริโภคได้มีสินค้าใช้ได้อย่างทั่วถึงในเวลาที่รวดเร็วที่สุด
นายจุรินทร์ ระบุว่า เท่าที่หารือเบื้องต้นนั้นจะต้องมีการกำหนดให้การส่งออกอาจจะต้องมาขออนุญาต โดยกรมการค้าภายในเพื่อกรมการค้าภายในจะได้ควบคุมดูแลปริมาณการผลิตปริมาณความต้องการใช้ในประเทศรวมทั้งการกระจายสินค้าต่างๆให้มีความทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้และเพื่อไม่ให้การส่งออกเป็นปัญหาทำให้เกิดความต้องการใช้ภายในขาดแคนจึงเป็นที่มาที่อาจจะจำเป็นต้องกำหนดให้มีการขออนุญาตจากกรมการค้าภายในเมื่อจะมีการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ส่วนเรื่องคุณภาพทาง อ.ย.จะเป็นผู้กำหนด ส่วนปริมาณเบื้องต้นหารือในวันนี้ว่าเป็นความเห็นของที่ประชุม กกร.กำหนดว่าถ้าจะต้องนำออกไปนอกราชอาณาจักรเกินกว่า 500 ชิ้นขึ้นไปจะต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายจากกรมการค้าภายใน ซึ่งกรมการค้าภายในจะพิจารณาให้เสร็จ และมาตรการที่ออกมาหลังจากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว และจะเป็นมาตรการระยะสั้นจะใช้เท่าที่จำเป็นและเมื่อผลสภาวะไม่ปกติไปแล้วก็จะยกเลิกโดยเร็ว ตั้งใจว่าถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในวันพรุ่งนี้จะดำเนินการให้เสร็จในทันทีจะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการต่อไปได้
ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่าผู้ค้าปลีกหลายรายให้ความร่วมมือนำมาวางขายแล้วการจัดสรรจะลงไปอย่างถี่ถ้วนและกว้างขวางมากขึ้นถัดจากนี้ไปตั้งแต่ 500 ชิ้นหรือ 10 กล่องขึ้นไปต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายและอาจจะจำกัดการซื้อครั้งหนึ่งซื้อได้ไม่เกินกี่ชิ้นถ้าใครซื้อมากเกินไปและออกนอกประเทศก็จะถูกจำกัดด้วยปริมาณที่เรากำหนดอยู่แล้วว่าให้ซื้อได้คนหนึ่งไม่เกินกี่ชิ้นจะทำให้การหิ้วนอกประเทศยากขึ้นและจะประสานกับกรมศุลกากรช่วยจำกัดการส่งออกให้ได้ผลมากขึ้นไม่น่าจะเกินวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้
ส่วน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ข้อเท็จจริงทางสุขอนามัย คือ ประชาชนสามารถใช้วิธีการอื่นที่ทดแทนได้เช่นเดียวกันจะได้ไม่ต้องไปซื้อเจลล้างมือมาเก็บไว้ทำให้ผลิตไม่ทันและของขาดตลาดโดยไม่จำเป็นโดยในประเด็นการป้องกันการติดเชื้อโคโรน่าไวรัส กระทรวงสาธารณสุขแนะนำเรื่องการล้างมือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ การใช้เจลล้างมือก็ดีแต่ถ้าเราสามารถล้างมือได้ล้างให้ครบทุกจุดก็ถือว่าสำคัญที่สุดและสามารถทำได้ทุกบ้านล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่ก็จะดีกว่าแอลกอฮอล์ด้วยซ้ำ เพราะเราสามารถทำได้ทุกที่ที่เรามีและเราสามารถที่จะล้างได้ครบทุกส่วน สำหรับหน้ากากอนามัยในประชาชนทั่วไปที่ไม่เจ็บป่วยการใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้ผ้าทำสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ในการป้องกันละอองไม่ให้เข้าสู่ปากหรือตาใช้ผ้าก็สามารถป้องกันได้ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหน้ากากอนามัยแต่ถ้าจะซื้อก็ตามที่ท่านรองนายกฯบอกว่าเราต้องดูมาตรการต่างๆที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาช่วยทำให้การใช้ของประเทศไทยพอเหมาะและทั่วถึง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี