"กัลยา"เผย"เฟซบุ๊ก"มาตามนัด! เข้าพบ"กมธ.ดีอีเอส"หารือป้องกันรุนแรงทางสื่อโซเชียล "เศรษฐพงค์"เผยเฟซบุ๊กไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ในไทย ฝาก"เฟซบุ๊ก"ให้ความสำคัญ"ทำตามกฎหมาย-รักษาข้อมูลส่วนบุคคล"
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 มีการประชุมคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส เพื่อพิจารณาถึงแนวทางและมาตรการป้องกันการใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสมในสถานการณ์เหตุร้ายที่รุนแรง โดยมีตัวแทนของทางเฟซบุ๊ก เช่น นายไมเคิล บัค หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ (Mr. Michael Bäk, Head of Public Policy, Thailand) น.ส.แซนดี้ คุณวัฒนาการ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ (Ms. Sandy Kunvatanagarn, Public Policy Manager, Thailand) และ นายร็อบ อะบรามส์ ผู้จัดการฝ่ายความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย (Mr. Rob Abrams, Trust & Safety Manager) เป็นต้น เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ.ดีอีเอส ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ทางเฟซบุ๊กได้เข้าพบ กมธ.ดีอีเอส ตามนัดหลังจากที่ต้องเลื่อนการหารือมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทางกรรมาธิการฯ ได้หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางเฟซบุ๊ก ถึงการวางแผนในอนาคตว่าจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อที่จะป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งประเด็นทางกฎหมาย และความร่วมมือกันระหว่างทางเฟซบุ๊กกับทางกรรมาธิการฯ โดยทาง กมธ.ดีอีเอส ไม่ว่าจะเป็น นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษา กมธ. นายสยาม หัตถสงเคราะห์ รองประธาน กมธ.คนที่ 1 และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ โฆษกกรรมาธิการฯ ได้สอบถามทางเฟซบุ๊กถึงประเด็นที่เรามีความห่วงใย เช่น ในเรื่องเนื้อหาที่มีความรุนแรงทางเฟสบุคได้มีการติดตามดูสถิติและนำมาวิเคราะห์บ้างหรือไม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหตุการณ์มีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้จัดการได้ทันเวลา ซึ่งทางเฟซบุ๊กบอกว่าตรงนี้ไม่ได้มีการเก็บวิเคราะห์อะไรว่าเฟซบุ๊กได้ทำความรุนแรงให้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่เฟซบุ๊กก็พยายามที่จะใช้ข้อดีที่มีอยู่ในการร่วมมือกับทางรัฐบาลไทย ในการเตือน แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ เช่น เรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างไรก็ตาม ทาง กมธ.ดีอีเอส ก็ได้ฝากไปยังให้เฟสบุคให้ได้ทำประโยชน์กับคนใช้มากขึ้น
ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า ตนเองได้สอบถามถึงเรื่องการกำกับดูแล เช่น ทางเฟซบุ๊กได้เก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ซึ่งทางเฟซบุ๊กตอบว่าเขาเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ไว้ที่ต่างประเทศ ตนจึงได้ตอบกลับไป โดยขอให้ทางเฟซบุ๊กได้ดูแลในเรื่อง Data privacy protection หรือการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายด้วย ซึ่งทางเฟสบุคบอกว่าเขากำลังดูในเรื่องดังกล่าวอยู่ พยายามทำให้ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการขอใบนุญาตจาก กสทช.ในประเทศไทย เพื่อที่จะดำเนินการเรื่องการเผยแพร่ภาพต่างๆ หรือการถ่ายทอดสดเหมือนโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ทางเฟสบุคบอกว่าเขาไม่ได้มีแนวคิดหรือนโยบายในเรื่องดังกล่าว เพราะมองว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ทำได้เช่นกัน และเท่าที่ทราบการดำเนินการในลักษณะของเฟสบุค ไม่น่าจะอยู่ภายใต้ กสทช.ซึ่งตนเองเข้าใจในสิ่งที่เฟซบุ๊ก ตอบกับ กมธ.ดีอีเอส เพียงแต่ตนต้องการถามย้ำ เพื่อให้ทางเฟซบุ๊กได้ตอบ เพื่อที่จะได้หาวิธีร่วมมือกันเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
"วันนี้ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่ทางเฟสบุคให้ความร่วมมือเข้ามาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ แสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กพยายามให้ความร่วมมือ แต่ก็มีบางประเด็นที่ทางตัวแทนเฟสบุคที่มาครั้งนี้ยังตอบได้ไม่ชัดเจน ดังนั้น อนาคตเราก็คงจะได้มีการประสานความร่วมกันอยู่เรื่อยๆ และคงจะได้มีการเชิญมาปรึกษาหารือกันอีกในอนาคต" รองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี