นายณรงค์ชัย ศรีสันติแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ล่าสุดทางเครือเบทาโกร โดยบริษัท เบทาโกร (กัมพูชา) จำกัดมีแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานอาหารสัตว์ ที่นิคมอุตสาหกรรมพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 18,000 ตันต่อเดือน ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนพฤษภาคม 2556 และคาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2557 เพื่อรองรับความต้องการด้านอาหารสัตว์ของเบทาโกรในประเทศกัมพูชา ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางเครือเบทาโกรได้เริ่มเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา ด้วยการตั้งสำนักงานขายในกรุงพนมเปญ เมื่อปี 2551 โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายอาหารสัตว์ที่ประเทศกัมพูชาประมาณ 3,600 ตันต่อเดือน ภายใต้ชื่อแบรนด์ เบทาโกร เพิ่มพูน และไบโอซึ่งการสร้างโรงงานอาหารสัตว์แห่งใหม่นี้ จะช่วยให้การขนส่งอาหารสัตว์ไปสู่ประเทศกัมพูชา สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งอาหารสัตว์อีกด้วย อีกทั้งเป็นการเพิ่มความสามารถการแข่งขันในด้านราคาให้กับเครือเบทาโกร และในขณะเดียวกันเชื่อว่าจะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทั้งในด้านของราคา คุณภาพ และการบริการ ทั้งนี้ในปัจจุบันลูกค้าชาวกัมพูชาเพิ่มความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ของเครือเบทาโกรมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายณรงค์ชัยกล่าวว่า ขณะนี้ทางเครือเบทาโกรกำลังดำเนินการก่อสร้างฟาร์มสุกรแม่พันธุ์ ขนาด 1,500 แม่ ที่จังหวัดกัมปงชนัง ประเทศกัมพูชา บนพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าในด้านของการก่อสร้างโครงการดังกล่าวแล้วประมาณ 90% และคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2556 และได้เริ่มนำสุกรแม่พันธุ์จากบริษัท เบทาโกรไฮบริด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เข้าไปเลี้ยงในฟาร์มแล้วประมาณ 500 แม่ โดยลูกสุกรที่ผลิตได้จากฟาร์มสุกรแม่พันธุ์แห่งนี้ ส่วนหนึ่งจะเอาไว้เลี้ยงเอง และอีกส่วนหนึ่งจะนำออกสู่โครงการจ้างเลี้ยงต่อไป
สำหรับในการดำเนินการเพื่อก่อสร้างฟาร์มสุกรแม่พันธุ์ในประเทศกัมพูชานั้นทางเครือเบทาโกรยังคงให้ความสำคัญ พร้อมกับการตระหนักถึงด้านของสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบๆ ฟาร์ม เช่นเดียวกับการก่อสร้างฟาร์มสุกรในประเทศไทย โดยมีการก่อสร้างระบบก๊าซชีวภาพ (Biogas) เพื่อใช้ในการกำจัดของเสีย และช่วยลดการใช้ไฟฟ้าภายในฟาร์มได้ประมาณ 30-50%
นอกจากนี้ที่สำคัญยังมีระบบBio-Security หรือระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่เข้มงวด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดทั้งของพนักงานและสุกร ตามนโยบายหลักของเครือเบทาโกร รวมทั้งขณะนี้เครือเบทาโกรกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดโรงงานแปรรูปสุกร และร้าน “เบทาโกร ช็อป” ในประเทศกัมพูชาอีกด้วย ในอนาคต เพื่อรองรับกับความต้องการบริโภคของชาวกัมพูชา อีกทั้งยังเป็นการวางรากฐานการขยายงานในต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)ที่เกิดขึ้นในปี 2558 อีกด้วย เนื่องจากเมื่อถึงเวลานั้น ปริมาณความต้องการบริโภคและขนาดของตลาดจะใหญ่มากจากปัจจุบันที่เครือเบทาโกรมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ ฮ่องกง กลุ่มสแกนดิเนเวีย และยุโรป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี