นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)มีมติเห็นชอบปรับราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ให้กับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะลดลง 3 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) จากเดิมกิโลกรัมละ 13.62 บาท เหลือกก.ละ 10.62 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-มิถุนายน 2563 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะจากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ครอบคลุมรถโดยสารสาธารณะประมาณ 80,000 คัน ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล รถแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก รถตู้ร่วมขสมก. รวมถึงในพื้นที่ต่างจังหวัดครอบคลุมรถโดยสารมินิบัส สองแถวร่วมขสมก. รถตู้ร่วมบขส. และรถแท็กซี่ โดยขอความร่วมมือบริษัท ปตท. ให้เข้ามาช่วยเหลือส่วนต่างราคาขายปลีกเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อคงราคาขายปลีกที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือนดังกล่าว ซึ่งประเมินว่าจะใช้วงเงินประมาณ 300 กว่าล้านบาท

นอกจากนี้กระทรวงพลังงานเตรียมจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคม ปตท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเอ็นจีวีทั้งระบบ ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาปตท.ได้อุ้มราคาไว้นานแล้ว โดยการพิจารณาครั้งนี้จะคำนึงถึงภาพรวมทั้งหมดในอนาคต เช่น ราคาขายปลีกสำหรับยานยนต์ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะต้องเป็นธรรม รวมทั้งรองรับแนวโน้มพฤติกรรมคนหันไปใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้เอ็นจีวีเป็นพลังงานทางเลือก เป็นต้น ทั้งนี้คาดจะได้ข้อสรุปเรื่องดังกล่าวภายใน 3 เดือนก่อน มาตรการลดราคาขายปลีกเอ็นจีวีสำหรับกลุ่มรถโดยสาธารณะจะหมดอายุสิ้นเดือนมิถุนายน 2563