"ไทย-จีน"บรรลุข้อตกลงร่างสัญญา 2.3 คาดลงนามสัญญาได้ไม่เกิน ต.ค.นี้ ส่วนการชำระเงินใช้เงินดอลลาร์ 80% เงินบาท 20%
วันที่ 25 พ.ค.2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบ Video Conference ว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการติดตามความคืบหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย ระยะที่1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท ในส่วนของร่างสัญญา 2.3 (สัญญาจ้างงาน ระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร) วงเงิน 50,633,500 ล้านบาท โดยในที่ประชุมได้มีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งได้มีการเจรจรต่อรองราคาลดลงจากเดิม 3,000 ล้านบาท และเห็นชอบการให้ชำระเป็นสกุลเงินดอลลาร์ 80 % เป็นจำนวน 1,313,885,237 เหรียญสหรัฐ และชำระเป็นเงินบาท 20 % เป็นจำนวน 10,126,700,000 บาท อัตราแลกเปลี่ยน 30.82955 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตามอัตราเฉลี่ยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ช่วงระหว่าง 25 เม.ย. - 30 พ.ย. 2562 แบ่งเป็นงวดตามระยะเวลาสัญญา 5 ปี(2563-2568)
ทั้งนี้ จะรายงานผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเดือน มิ.ย.นี้ และจะส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดได้ตรวจสอบพร้อมขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะสามารถสรุปร่างสัญญาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินและเงื่อนไข ภายในเดือน ส.ค.นี้ และคาดว่าจะสรุปรายละเอียดสามารถลงนามในสัญญาได้ในเดือน ต.ค. 2563 รวมถึงได้แจ้งไปทางฝ่ายจีนว่าจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งฝ่ายรัฐบาลจีนรับทราบ และจะนำเสนอรัฐบาลจีน เพื่อกำหนดตัวบุคคลจากรัฐบาลจีน มาร่วมเป็น ประธานสักขีพยานฝ่ายจีนต่อไป
อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการดังกล่าวค่อนข้างมีความล่าช้าเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ก็ได้มีการหารือกับผู้แทนฝ่ายจีนให้ช่วยพิจารณานำบุคลากรที่จะจัดส่งมาไทยไปตรวจสุขภาพก่อน เพราะขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยอยู่ในมาตรฐานสูงมาก และมีผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญจนแทบไม่มีแล้วเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการที่จะไม่เกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบรางซึ่งมีต้นทุนด้านโลจิสติกส์ต่ำ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า และในอนาคตไทยจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนในการรับสินค้าจากจีน และ สปป.ลาว ส่งต่อผ่านไทยไปตอนใต้ยังประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า และกัมพูชา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี