‘อธิรัฐ’เช็คความพร้อม‘ท่าเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่’ ประกาศเปิดใช้งานกลางปี64

‘อธิรัฐ’เช็คความพร้อม‘ท่าเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่’ ประกาศเปิดใช้งานกลางปี64

วันศุกร์ ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 21.08 น.

‘อธิรัฐ’เช็คความพร้อม‘ท่าเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่’ ประกาศเปิดใช้งานกลางปี64

19 มิถุนายน 2563 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจความพร้อม ท่าเทียบเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่  อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด มีว่าที่เรือตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่  ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมส่วนราชการ ประกอบด้วยนายด่านศุลกากร นายอำเภอคลองใหญ่ พร้อมภาคเอกชนของจังหวัดตราดร่วมต้อนรับ


สืบเนื่องมาจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลให้เข้ามาบริหารท่าเทียบเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ เมื่อเดือนตุลาคม 2562  หลังจากนั้นการท่าเรือได้เดินทางเข้ามาเตรียมความพร้อมเพื่อจะเข้ามาบริหารพร้อมศึกษาศักยภาพและการเข้ามาทำธุรกิจขนส่งสินค้าในพื้นที่อำเภอคลองใหญ่  และได้ดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เสนอให้ ครม.อนุมัติอย่างเป็นทางการ ซึ่งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2563  ที่ผ่านมา นายอธิรัฐ ได้เข้ามาหารือและร่วมประชุมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่กระทรวงคมนาคม และมีมติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้ามาบริหารท่าเรือเอนกประสงค์แห่งนี้ภายในปี 2564  ซึ่งวันนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้เดินทางมาตรวจความพร้อมและร่วมหารือกับทางจังหวัดและภาคเอกชนเพื่อรับฟังข้อเสนอเพื่อจะนำไปจัดทำเป็นแผนในการเข้ามาบริหารท่าเรือฯต่อไป

 คณะของรัฐมนตรีช่วยคมนาคม ได้เข้าชมแผนผังท่าเรือที่ห้องสำนักงานท่าเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ พร้อมฟังบรรยายสรุปจากตัวแทนของกรมเจ้าท่าฯ  และได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบบริเวณท่าเรือ พร้อมดูความพร้อมในเรื่องของการบริหารจัดการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าฯ และการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้นำเสนอแนวทางในเรื่องการเข้ามาบริหารจัดการแนวทางการปรับปรุงสะพานและการ ประกอบธุรกิจขนถ่ายสินค้า ซึ่งได้รับฟังความต้องการจากภาคเอกชนทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด  และสภาอุตสาหกรรม จ.ตราด ด้วย

นายอธิรัฐ  กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมและมอบนโยบายให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทยในการกำหนดรูปแบบการทำธุรกิจของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเข้ามาบริหารและทำธุรกิจที่ท่าเรือเอนกประสงค์แห่งนี้  ซึ่งทางกระทรวงต้องการให้การท่าเรือฯได้เข้ามาบริหารให้เสร็จสิ้นภายในปี 2564  ทั้งนี้ในวันนี้ ต้องการหาข้อสรุปจากหน่วยงานต่าง ๆ  เพื่อจะให้ทางการท่าเรือแห่งประเทศไทยปรับปรุงข้อมูลและประเด็นที่ต้องการรับการ สนับสนุน ทั้งแผนการใช้พื้นที่และให้เอกชนเช่าพื้นที่ในการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องในขณะเดียวกันก็ต้องการขอความร่วมมือจากภาครัฐ เช่น กรมศุลกากร  กรมธนารักษ์  และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  เพื่อจะร่วมบูรณาการสนับสนุนการเข้าไปบริหารท่าเรือแห่งนี้ โดยมีเป้าหมายจะเข้าไปบริหารในราวกลางปี 2564  ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเร่งรัดดำเนินการได้แล้วเสร็จ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องการใช้สะพานแห่งนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการเป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวด้วยนะ  ทางกระทรวงจะได้นำข้อเสนอเหล่านี้ไปกำหนดเป็นแนวนโยบายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้พิจารณา  และเชื่อมั่นว่าการท่าเรือฯ จะสามารถทำได้  อีกทั้งสะพานแห่งนี้จะสามารถเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษคลองใหญ่ ที่จะร่วมกันยกระดับเศรษฐกิจของอำเภอคลองใหญ่ได้  

หลังจากนั้นคณะของรัฐมนตรีช่วยคมนาคมได้ร่วมประชุมกับส่วนราชการ และภาคเอกชนที่ห้องประชุมของโรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม  พร้อมให้ส่วนราชการทั้งกรมเจ้าท่าฯ   และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอแนวคิดและการพัฒนาท่าเรือแห่งนี้ให้กับทางผู้เข้าร่วมประชุม และรับฟังความต้องการของภาคเอกชน จ.ตราด  ที่ต้องการเห็นท่าเรือเอนกประสงค์แห่งนี้ได้ใช้งานและเกิดประโยชน์กับการพัฒนาเศรษฐกิจของ จ.ตราด  ซึ่ง รมช.คมนาคม ยังย้ำให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง แขวงทางหลวง จ.ตราด  แชวงทางหลวงชนบท จ.ตราด รวมทั้ง สำนักงานเจ้าท่าฯ จ.ตราด เร่งรัดงานในหน้าที่  เช่น ถนนสี่เลน  ถนนทางเข้าท่าเรือ  และร่องน้ำให้แล้วเสร็จก่อนกำหนดเพื่อจะได้ทำการเปิดการใช้งานท่าเรือแห่งนี้ได้ภายในกลางปี 2564  ต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top