นางวาสนา เนินสลุง ตัวแทนกลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ส่งเรื่องร้องเรียนกับ DSI ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี2561 เกี่ยวกับบริษัทเมืองไทยแคปปิตอล จำกัด(เดิมชื่อ บริษัท เมืองไทยลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน))ทำการปล่อยเงินกู้ และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่า 15% ตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้กลุ่มผู้ที่ไปกู้เงินได้รับความเสียหาย จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าตามที่กฎหมายกำหนด และได้ไปติดตามผลการสอบสวนคดีที่ DSI ตลอดมาจนกระทั่งวันที่ 20 มีนาคม 2563 คณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าตรวจค้นสถานที่ 3 แห่งของ บมจ. เมืองไทยแคปปิตอล ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล ถนนจรัญสนิทวงศ์ และศูนย์ประมูลรถ จังหวัดราชบุรี และ ชลบุรี โดยได้ตรวจพบพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปประกอบการสืบสวน
ล่าสุดได้รับจดหมายแจ้งจาก DSI เลขที่ยธ 0805/939 ลงวันที่วันที่ 29 มิถุนายน 2563โดย ผอ.กองคดีการเงิน และการธนาคารและการฟอกเงิน พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำว่า กรณีการร้องเรียนดังกล่าว ขณะนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษที่จะต้องทำการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ดังนั้นกลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้จะเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมต่อไปในทุกช่องทาง และอยากเรียกร้องให้คืนดอกเบี้ยส่วนที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ให้ผู้เสียหายทุกคน ซึ่งขณะนี้กำลังจะนำเรื่องไปปรึกษาสภาทนายความเพื่อขอความช่วยเหลือในส่วนของแง่มุมกฎหมาย และขอให้เข้าไปเป็นโจทก์ร่วมในการดำเนินคดีชั้นศาล เนื่องจากคู่กรณี เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้ร่ำรวยระดับประเทศ และมีเพื่อนฝูงอยู่ในทุกวงการ ส่วนผู้เสียหาย เป็นคนจน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางกลุ่ม มีผู้เสียหายจากการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล มากกว่า 1,000 ราย โดยความผิดดังกล่าว มีอายุความ 10 ปี ทางกลุ่มจะทยอยดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมตามกฎหมายจนครบทุกราย
ทั้งนี้ ในอดีตการสอบสวนคดีพิเศษที่เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้น DSI ได้เคยดำเนินการในกรณี นายวิชัย ปั้นงาม ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2559 เกี่ยวกับขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานีและมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา โดยใช้ระบบแม่ข่ายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมซึ่งในกรณีของเสี่ยวิชัย ดูจะมีขนาดเล็กกว่าบมจ.เมืองไทยแคปปิตอล ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 4,200 สาขาทั่วประเทศ มีพนักงานมากกว่า 9,700 คน มีลูกค้ามากกว่าหนึ่งล้านราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี