ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ จัดทำบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมัน โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบอาจลดลงมาอีกจากผู้ผลิตน้ำมันดิบ Shale oil มีกำไรพร้อมกลับมาผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่สมาชิกโอเปก(OPEC) ไม่ลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง เนื่องจากสถานะทางการเงินอ่อนแอจากการพึ่งพิงรายได้ทางเดียวจากน้ำมัน
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ เปิดเผยแนวโน้มราคาน้ำมัน โดยคาดว่าในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้ามีโอกาสที่ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate (WTI) ในสหรัฐฯจะลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 35 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลอีกครั้ง เพราะได้รับปัจจัยลบสองปัจจัย คือ
1.ผู้ผลิต Shale oil กลับมามีกำไรจากการผลิตน้ำมันดิบ และเพิ่มปริมาณการผลิตมากขึ้น ทำให้น้ำมันดิบโลกเกิดภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง และ 2.สมาชิกกลุ่ม OPEC ที่มีสถานะทางการเงินอ่อนแอบางประเทศมีโอกาสไม่ทำตามข้อตกลงลดปริมาณการผลิตในขั้นแรกที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรล
โดยปัจจุบันผู้ผลิต Shale oil มีต้นทุนที่ไม่รวมค่าขุดเจาะ (Operating cost) อยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และในสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรลต่อวัน จาก10.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน หากยังคงปริมาณการผลิตในระดับดังกล่าวไปตลอดทั้งปีจะทำให้การผลิตเฉลี่ยทั้งปี 2563 ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้เคียงกับคาดการณ์ล่าสุดของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ แต่หากปริมาณการผลิตยังเพิ่มขึ้นต่อจากนี้ก็อาจทำให้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ต้องปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการผลิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันต่อไป
“การผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯ ที่กลับมาเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบโลกเผชิญภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง ในขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 1.4 ล้านบาร์เรล เป็น 540 ล้านบาร์เรล สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ชี้ให้เห็นถึงปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกินที่ยังเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก”นายคมศร กล่าว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นยังทำให้บางประเทศในกลุ่มสมาชิกของ OPEC ที่ยังคงมีสถานะทางการเงินอ่อนแอจากการพึ่งพิงรายได้ทางเดียวจากน้ำมัน เริ่มไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงลดปริมาณการผลิตในขั้นแรกที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ข้อตกลงร่วมกันลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบขั้นแรกของทั้งกลุ่ม OPEC มากกว่าเป้าหมายถึง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยอิรักซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันลำดับที่ 2 ของกลุ่มมีปริมาณการผลิตเกินกว่าโควตาที่ตกลงไว้กว่า 6 แสนบาร์เรลต่อวัน
ในขณะที่ซาอุฯ แกนนำของกลุ่ม OPEC ซึ่งคงการผลิตน้ำมันดิบต่ำกว่าระดับโควตามาโดยตลอด ยังคงผลิตเกินกว่าโควตาล่าสุดถึง 2 แสนบาร์เรลต่อวันอีกทั้ง ประเทศลิเบียก็ได้ประกาศจะกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มในเบื้องต้นที่ 3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน และจะผลิตเพิ่มขึ้นจนเต็มกำลังที่ 3-4 แสนบาร์เรลต่อวัน ภายใน 90 วัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี