วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
‘ดีอีเอส’แจงยิบ 2 ข้อเท็จจริง‘เน็ตประชารัฐ’ ในข้อมูลตรวจสอบของ สตง.

‘ดีอีเอส’แจงยิบ 2 ข้อเท็จจริง‘เน็ตประชารัฐ’ ในข้อมูลตรวจสอบของ สตง.

วันจันทร์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 06.30 น.
Tag : ดีอีเอส เน็ตประชารัฐ อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย
  •  

“ดีอีเอส” แจงข้อเท็จจริง 2 ประเด็นโครงการ “เน็ตประชารัฐ” ในข้อมูลการตรวจสอบของ สตง. ส่วนกรณีพบมีการนำโครงข่ายไปใช้งานโดยยังไม่ได้รับอนุญาต จี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงรายงานผลใน 60 วัน

6 กรกฎาคม 2563 นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า มีข้อเท็จจริง 2 ประเด็นหลักๆ ซึ่งเป็นข้อมูลความคืบหน้าการต่อยอดใช้ประโยชน์โครงข่ายเน็ตประชารัฐ ที่ไม่ได้รับการระบุถึง ในกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เผยแพร่ข้อมูล “ผลสอบเน็ตประชารัฐ ไม่คุ้มงบ 13,000 ล้าน แถมเชื่อมต่อยังไม่ได้ ไม่สะท้อนความสำเร็จการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเน็ตประชารัฐ”


ทั้งนี้ ในประเด็นแรก ที่ระบุว่าโครงการเน็ตประชารัฐไม่คุ้มค่า เนื่องจากยังไม่เปิดให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเชื่อมต่อโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับประชาชน หลังจากวางโครงข่ายแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 นั้น ปัจจุบันได้มีการลงนามสัญญาไปแล้ว 4 ราย โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 กระทรวงฯ ได้พิจารณาเห็นชอบให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมจำนวน 6 ราย ที่แสดงความสนใจเข้าเชื่อมต่อโครงข่ายฯ และมีผู้ประกอบการฯ ได้ลงนามในสัญญาแล้ว 4 ราย ได้แก่  บมจ. ทีโอที, หจก. เอส.ที.แอล เสียง (ไทยแลนด์), บริษัท วารินชำราบ จำกัด และ บมจ. กสทโทรคมนาคม ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ และบางรายเริ่มให้บริการแล้ว

สำหรับความเป็นมาของการเตรียมการให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมอื่นเชื่อมต่อไปให้บริการยังบ้านเรือนประชาชนได้ หรือ Open Access Network นั้น  กระทรวงฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์ในการเชื่อมโครงข่ายแบบเปิด เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560  โดยได้เสนอหลักการให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทั้งประเภทที่มีโครงข่ายและไม่มีโครงข่ายของตนเอง ให้สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐ โดยไม่มีค่าใช้บริการ เพื่อลากสายไปให้บริการยังบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งจะทำให้เกิดผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายเล็กในภูมิภาค ทำให้เกิดการแข่งขัน ประชาชนได้ใช้ประโยชน์และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง

ต่อมาได้เสนอคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 และเสนอ ครม. รับทราบ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 หลังจากนั้น กระทรวงฯ ได้จัดทำร่างข้อเสนอการใช้โครงข่ายและแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทราบ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ปีเดียวกัน โดยมีผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมสนใจเข้าเชื่อมต่อโครงข่าย จำนวน 8 ราย แต่ผ่านการพิจารณา 6 ราย และเข้ามาเซ็นสัญญาแล้ว 4 ราย

ทั้งนี้ เนื่องจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐเป็นทรัพย์สินของรัฐ การอนุญาตให้ใช้ทรัพย์สินจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างรอบคอบ มีขั้นตอนที่ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดทำสัญญาการอนุญาตให้ใช้โครงข่ายฯ ซึ่งเดิมสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 ว่าการอนุญาตให้เอกชนนำทรัพย์สินของรัฐไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อาจเข้าข่าย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ กระทรวงฯ จึงต้องดำเนินการเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้เสนอให้ ครม. ให้ความเห็นชอบแนวทางการเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐแบบเปิดให้เอกชนที่สนใจเชื่อมต่อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และ ครม. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562

จากนั้น ได้หารือไปยังคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในประเด็นการอนุญาตให้เอกชนนำทรัพย์สินของรัฐไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ว่า เข้าข่าย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ หรือไม่ โดยได้รับหนังสือตอบเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ว่า การดำเนินการในรูปแบบที่กระทรวงฯ นำเสนอไม่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ จึงได้จัดส่งสัญญาการใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ ให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาอีกครั้ง และได้รับการตอบกลับมาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ส่งผลให้การเปิดโครงข่ายแบบเปิดมีความล่าช้าไปประมาณ 1 ปี

สำหรับข้อเท็จจริงในประเด็นที่สอง ซึ่ง สตง. รายงานว่า ผลการตรวจสอบพบว่า กระทรวงฯ ยังไม่สามารถควบคุม ตรวจสอบ และติดตามการเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้บริการโครงข่ายแบบเปิด ส่งผลกระทบให้มีผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมบางราย นำโครงข่ายดังกล่าว ไปใช้งานโดยยังไม่ได้รับอนุญาตนั้น ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อโครงข่ายแบบเปิดทั้งหมด และรายงานผลให้ทราบภายใน 60 วัน

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าที่ผ่านมาให้ความสำคัญการประสิทธิภาพของระบบควบคุม ตรวจสอบ และติดตามการเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐโดยตลอด เนื่องจากอุปกรณ์โครงการเน็ตประชารัฐมีการติดตั้งอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลทั่วประเทศ กระทรวงฯ จึงได้พัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพย์สิน (MDES-SM) เพื่อควบคุมกำกับอุปกรณ์ปลายทางและการใช้งาน เพื่อให้บริการไวไฟเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และได้เพิ่มระบบบริหารจัดการโครงข่ายแบบเปิด (MDES-OA) เมื่อปลายปี 2562 ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ สถานะของการใช้และเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อรองรับการเชื่อมต่อโครงข่ายแบบเปิดที่ได้รับการอนุมัติ

นางสาวอัจฉรินทร์  กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานเน็ตประชารัฐแล้ว 8,637,497 ราย และจำนวนอุปกรณ์ใช้งานจำนวน 10.1 ล้านเครื่อง มีการใช้งานโดยเฉลี่ยมากกว่า 20 ล้านครั้งต่อเดือนโดยให้บริการฟรี Wi-Fi หมู่บ้านละ 1 จุด ทั้ง 24,7000 หมู่บ้าน ในความเร็ว 100/50 Mbps และยังได้ต่อขยายจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปยังโรงเรียน 1,187 แห่ง ซึ่งรวมถึงโรงเรียน ตชด. 36 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสุขศาลาพระราชทาน 484 แห่ง ที่ยังไม่มีโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงเข้าถึง ทำให้เกิดความครอบคลุมได้ครบทุกแห่ง ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณในการดำเนินการได้มากและสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ดีอี เตรียมประชุม \'The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025\'24-27 มิ.ย. นี้ ดีอี เตรียมประชุม 'The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025'24-27 มิ.ย. นี้
  • สภาฯ ไฟเขียว พ.ร.ก. อาชญากรรมออนไลน์ฯ -  พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล สภาฯ ไฟเขียว พ.ร.ก. อาชญากรรมออนไลน์ฯ - พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล
  • ดีอี ร่วม MOU คาซัคสถาน มุ่งพัฒนาดิจิทัลใน 9 ด้านครอบคลุมเศรษฐกิจ-สังคม ดีอี ร่วม MOU คาซัคสถาน มุ่งพัฒนาดิจิทัลใน 9 ด้านครอบคลุมเศรษฐกิจ-สังคม
  • ‘ดีอี’วางโครงข่ายเน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกหมู่บ้าน-ชุมชนทั่วไทย ‘ดีอี’วางโครงข่ายเน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกหมู่บ้าน-ชุมชนทั่วไทย
  • รมว.ดีอีเอส เปิดงาน Government Data Catalog Day 2567 รมว.ดีอีเอส เปิดงาน Government Data Catalog Day 2567
  • ระบาดหนัก!! \'ดีอี\'ไล่ปิดแพลตฟอร์มปลอมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ได้แล้วถึง 312 บัญชี ระบาดหนัก!! 'ดีอี'ไล่ปิดแพลตฟอร์มปลอมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ได้แล้วถึง 312 บัญชี
  •  

Breaking News

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved