นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธาน วันสถาปนากรมเจ้าท่าครบรอบ 161 ปี ว่า ในปี 2563 ทางกรมเจ้าท่า มีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือได้แก่ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าช้าง ท่าเตียน วัดโพธิ์ พระราม 5 เป็นต้น
นอกจากนี้ เตรียมให้บริการเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเลลำแรกของประเทศไทย คาดว่าจะได้เริ่มให้บริการที่จังหวัดภูเก็ตทันที แต่จะต้องหารือกับท่าเรือที่จะให้บริการก่อน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นท่าเรือเอกชน ส่วนค่าโดยสารจะพยายามไม่ให้ขึ้นราคาที่จะกระทบต่อประชาชน โดยอาจจะเป็นการขอความร่วมมือหากขึ้นราคาจะไม่เกิน 10-20% ขณะเดียวกันมีแผนเปิดตัวเรือโดยสารไฟฟ้าที่ใช้บริการในคลองแสนแสบ โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทดลองระบบการใช้บริการ ยังไม่สมบูรณ์ 100% ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ด้านนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า สำหรับแผนการพัฒนาขนส่งนั้นทาง กรมเจ้าท่า มีแผนที่จะเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ขยายจากสาทรไปถึงจังหวัดปทุมธานี และสมุทรปราการ จากเดิมเอกชนมีการเดินเรือจากท่าเรือสาทรไปยังจังหวัดนนทบุรี เพื่อรองรับการให้บริการในจังหวัดรอบนอกมากขึ้น และเป็นระบบขนส่งผู้โดยสารเชื่อมต่อกับระบบสาธารณะอื่นเช่น รถเมล์ ขสมก.และรถไฟฟ้า โดยจะพยายามผลักดันให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย เนื่องจากในอนาคตจากมองว่ามีส่วนสำคัญทำให้ต้นทุนและค่าโดยสารของเรือโดยสารถูกลง
นอกจากนี้กรมเจ้าท่ายังได้เดินหน้าเร่งพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 29 แห่ง ให้เป็นสถานีเรือเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบต่างๆเพื่อยกมาตรฐานและปลอดภัย โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 เร็วกว่าแผนจากเดิมที่กำหนดแล้วเสร็จในปี 2567 ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเช่น ท่าเรือวัดโพธ์ โดยการสนับสนุนงบประมาณจากวัดโพธิ์ ,ท่าเรือพระราม5 และท่าเรือพระราม 7 โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นต้น
กรมเจ้าท่า ยังจะส่งเสริมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือสาธารณะให้สามารถนำพื้นที่บางส่วนของท่าเรือสาธารณะมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยจะมีการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาและบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่พักคอยภายในสถานีเรือ โดยกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา หากได้รับความเห็นชอบก็จะมีการพิจารณาความเหมาะสมและประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่อไป
ส่วนการสนับสนุนนำเรือไฟฟ้ามาให้บริการ ขณะนี้พบว่าการทดสอบเรือไฟฟ้าในภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ อาจจะมีการปรับปรุงระบบเพิ่มเติมและหลังจากผ่านการทดสอบแล้วในช่วงปลายปีนี้จะมีการนำเรือไฟฟ้าไปให้บริการในจังหวัดท่องเที่ยวเช่น จังหวัดภูเก็ต ,กระบี่ และพังงา โดยที่จังหวัดภูเก็ตคาดว่าจะมีเรือไฟฟ้าให้บริการในช่วงปลายปีนี้ 30 ลำ และในอนาคตจะมีเรือให้บริการในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่กล่าวไปแล้วประมาณ 200 ลำ
นอกจากนี้จะมีการพัฒนาเรือไฟฟ้าเพื่อให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยาฯ ก็มีความพร้อมในการปรับเปลี่ยนเรือมาใช้เรือพลังงานไฟฟ้าที่ทำจากอลูมิเนียม ส่วนการเปลี่ยนจากเรือไม้นั้นจะเปลี่ยนตามรอบที่หมดอายุ คาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปลายปี 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี