ขสมก.อาการหนัก  ครม.อนุมัติกู้เสริมสภาพคล่อง7.8พันล.

ขสมก.อาการหนัก ครม.อนุมัติกู้เสริมสภาพคล่อง7.8พันล.

วันศุกร์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีการพิจารณาวาระตามที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขอกู้เงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติให้ขสมก. กู้เงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 7,895 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้


ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562ขสมก.มีหนี้สินค้างชำระรวม 122,102 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนและไม่สามารถปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นได้ตามสภาวการณ์ปัจจุบัน

ส่วนประมาณการเงินสดรายรับรายจ่ายของ ขสมก.ประจำปีงบประมาณ 2564 มีดังนี้ ประมาณการรายรับเงินสด 9,579 ล้านบาท ประมาณการรายจ่ายเงินสด 42,665 ล้านบาท ส่งผลให้ติดลบ 33,085 ล้านบาท ดังนั้น ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 7,895 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานและทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอในการให้บริการขนส่งสาธารณะ แยกเป็นนำไปใช้ชำระค่าเชื้อเพลิง 3,219 ล้านบาท ชำระค่าเหมาซ่อม 1,642ล้านบาท และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 3,033 ล้านบาท

ขณะที่กระทรวงการคลังมีความเห็นว่าขอให้กระทรวงคมนาคมและขสมก.เร่งจัดทำและดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างจริงจัง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็วและไม่เป็นภาระต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำนักงบประมาณให้ความเห็นว่าควรให้ ขสมก.เร่งเสนอแผนฟื้นฟูกิจการที่ปรับปรุงใหม่ให้เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะแนวทางการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย  และการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน เพื่อลดภาระของรัฐบาล

ส่วนที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) วันเดียวกัน นายมาโนช สายชูโตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติผ่อนคลายมาตรการการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19
เพิ่มเติม โดยให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำ มีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐานของพาหนะ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไปนั้น ในส่วนของ บขส. ยังคงดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด

พร้อมยอมรับว่ามาตรการผ่อนคลายดังกล่าว จะช่วยให้ บขส. ประกอบการเดินรถได้คุ้มทุนมากขึ้น เนื่องจากโดยปกติแล้ว การเดินรถแต่ละเที่ยวจะต้องมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารมากกว่า 70% ขึ้นไป แต่ที่ผ่านมา บขส. มีอัตราบรรทุกอยู่ที่ 67-68% เท่านั้น ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันผู้โดยสารยังใช้บริการรถโดยสารในอัตราที่น้อยมาก โดยก่อนการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 80,000 คน ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการเหลือเพียงวันละ 40,000-50,000 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้โดยสารเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมถึงปัจจัยเรื่องภาวะเศรษฐกิจ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top