ลุยโละรถเมล์เก่าเป็น EV ขสมก.ตั้งเป้าปี’70 เปลี่ยนครบ 1,520 คัน

ลุยโละรถเมล์เก่าเป็น EV ขสมก.ตั้งเป้าปี’70 เปลี่ยนครบ 1,520 คัน

วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568, 07.45 น.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวาระครบรอบ 49 ปีขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ถือเป็นโอกาสสำคัญในการตอกย้ำบทบาทขององค์กรที่เป็น “เสาหลักของระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” ซึ่งทำให้ประชาชนเดินทางสะดวก ปลอดภัย

ทั้งนี้ที่ผ่านม ขสมก.ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของการเดินทางในชีวิตประจำวันของประชาชน แม้จะเป็นระบบที่ช่วยเชื่อมโยงเมืองและย่านต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง แต่รถเมล์จำนวนมากมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 30 ปี สภาพเก่าและล้าสมัย จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ขสมก.ต้องเร่งแก้ไข


“กระทรวงคมนาคมจึงตั้งเป้าสู่การปฏิรูปการเดินรถโดยสารสาธารณะครั้งใหญ่ของประเทศ โดยการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เชื่อมโยงทุกโหมดการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือ และการเดินทางรูปแบบอื่นๆ ซึ่ง ขสมก.จะเป็นหัวใจหลักในการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น”นายพิพัฒน์ กล่าว

โดยปัจจุบัน ขสมก.ให้บริการรถรวม 2,883 คัน ขสมก.พร้อมที่จะเดินหน้าสร้าง “ระบบรถเมล์ไทยยุคใหม่” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนเมือง โดยในปี 2568 นี้ ขสมก.เตรียมเดินหน้าโครงการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการ ลดมลพิษ และสร้างมาตรฐานใหม่ของระบบรถเมล์ไทยยุคใหม่ ด้วยการจัดหารถโดยสาร EV จำนวน 1,520 คัน วงเงินกว่า 15,000 ล้านบาท จะเปิดประมูลภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยนำรถใหม่มาให้บริการได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2569 เป็นต้นไป และตั้งเป้าหมายส่งมอบครบทั้งหมดภายในปี 2570 เพื่อทดแทนรถเมล์ดีเซลเก่าที่ใช้งานมานาน ทั้งนี้จะทำให้ประหยัดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซ่อมได้รวมกว่า 1,442 ล้านบาทต่อปี

“ส่วนเรื่องค่าโดยสารรัฐบาลจะมีมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งระบบ ซึ่งจะมีการให้รายละเอียดอีกครั้งในภายหลัง ทั้งนี้ปัจจุบันรถเมล์ร้อนเก็บค่าโดยสาร 8 บาท ตลอดสาย ส่วนรถโดยสารปรับอากาศอยู่ที่ 13-25 บาท หากนำรถแม้ร้อนออกทั้งหมดประชาชนอาจกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าโดยสารที่สูงขึ้น ดังนั้นเบื้องต้นรัฐบาลจะพิจารณามาตรการชดเชยส่วนต่างเพื่อให้ผู้โดยสารกลุ่มที่เคยใช้รถเมล์ร้อนยังสามารถใช้บริการรถโดยสาร EV ได้ในราคา 8 บาทเท่าเดิม ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นรัฐบาลจะเข้ามาดูแล เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นธรรมและไม่เพิ่มภาระประชาชน”นายพิพัฒน์ กล่าว

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารแบ่งเป็น รถโดยสารธรรมดา(รถร้อน) 1,520 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ 1,363 คัน รองรับผู้โดยสารเฉลี่ย 5-6 แสนคนต่อวัน โดย ขสมก.พร้อมเดินหน้าจัดหารถโดยสาร EV ให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งคาดว่าจะได้รับรถเฟสแรกประมาณเดือนกันยายน 2569 และพัฒนาระบบบริหารเดินรถด้วยข้อมูลเรียลไทม์เพื่อลดปัญหารถขาดระยะ และเพิ่มความตรงต่อเวลา โดย ขสมก.ได้นำเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยเพิ่มคุณภาพบริการ อาทิ ระบบติดตามรถ (GPS) เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน BMTA Bus ให้ประชาชนตรวจสอบเวลารถแบบเรียลไทม์ และระบบชำระค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top