นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ บสย.ในรอบ 7 เดือนปี 2563(มกราคม-กรกฎาคม) สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการSMEs เข้าถึงสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้โดยมียอดวงเงินอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 115,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167% เทียบกับระยะเวลาเดียวกันปีก่อน มีการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LG) 132,434 ฉบับ เพิ่มขึ้น223% และช่วยลูกค้าใหม่ได้รับสินเชื่อ 98,221 ราย เพิ่มขึ้น 222% ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 ตามโครงการย่อย ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs สร้างไทย โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs ดีแน่นอน และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs บัญชีเดียว
นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-17 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 บสย.ยังช่วยผู้ประกอบการ SMEs ค้ำประกันสินเชื่อได้ถึง 117,508 ราย
นอกจากนี้ บสย. ได้เตรียมออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล(PGS9) วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เพื่อเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ วงเงินดังกล่าวจะทำให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 1 แสนราย เป็นยอดสินเชื่อกว่า1 แสนล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้
“การผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อโดยใช้กลไกการ “ค้ำประกันสินเชื่อ” ผ่านมาตรการของรัฐ และโครงการของ บสย. มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs ก้าวผ่านวิกฤติไปได้ด้วยบทบาทของการเป็น “นายธนาคารข้างถนน”ที่มาพร้อมกับภารกิจผลักดันให้ SMEs ต้องชนะ จะช่วยฟื้นวิกฤติ SMEs ท่ามกลางสภาพปัญหาของผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือSMEs เพิ่มเติมตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อติดขัดในการดำเนินโครงการเพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทั่วถึงและเพียงพอ 3 โครงการ ได้แก่
1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS Soft Loan พลัส วงเงิน 57,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีคุณสมบัติตาม พ.ร.ก. Soft Loan แต่ยังไม่ได้รับสินเชื่อตาม พ.ร.ก. Soft loan เริ่มค้ำประกันและเก็บค่าธรรมเนียมในต้นปีที่ 3 นับจากวันที่ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อ ค้ำประกันสูงสุดต่อราย 100 ล้านบาท
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 8 หรือ “บสย. SMEs ชีวิตใหม่” วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป วงเงินไม่เกิน 20 ล้านต่อรายรวมทุกสถาบันการเงิน ในอัตราค่าธรรมเนียม 1.75%ต่อปี ระยะเวลาค้ำประกัน 10 ปี
3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Micro Entrepreneur ระยะที่ 3 วงเงิน 15,000 ล้านบาทซึ่งมติ ครม.อนุมัติขยายเวลา จากเดิมสิ้นสุด วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ปัจจุบันมีวงเงินคงเหลือ 2,500 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียม 1 - 2% ต่อปีระยะเวลาค้ำประกัน 10 ปี
บสย. ยังดำเนินโครงการช่วยผู้ประกอบการSMEs อีก 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs พลิกฟื้นท่องเที่ยววงเงิน 3,700 ล้านบาท ปัจจุบันมีวงเงินคงเหลือ 1,300 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการได้ 1,400 ราย 2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Start-up& Innobiz วงเงิน 8,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีวงเงินคงเหลือ 3,500 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการ 2,400 ราย
3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEsไทยชนะ โครงการที่ บสย. ดำเนินการเอง วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้ 12,000 ราย 4.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. เพิ่มพูน(Direct Guarantee : DG) วงเงิน 1,200 ล้านบาทช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 240 ราย
นอกจากนี้ ได้เปิดให้บริการให้คำปรึกษาทางการเงิน ครบวงจร ทั้งการขอสินเชื่อ การปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้ชื่อ “ศูนย์ที่ปรึกษาด้านการเงิน SMEs” (F.A. Center) ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี