ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส พี ไอซ์ (2556) อัดงบ 35 ล้านติดแผงโซล่าเซลล์ขับเคลื่อนองค์กรด้วยพลังสะอาด ค่าไฟลดฮวบ 5 แสนล้าน คาดคืนทุน 5-7 ปี
นางภาวนา คะวีรัตน์ กรรมการบริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส พี ไอซ์ (2556) ธุรกิจน้ำแข็งและน้ำดื่มแบรนด์สตาร์เฟรช กล่าวว่า กระบวนการผลิตผลิตน้ำแข็งโดยส่วนใหญ่มักจะผ่านห้องเย็น ขณะที่บริษัทฯ ได้สร้างจุดขายโดยการทำน้ำแข็งสด กล่าวคือ ผลิตจากเครื่องและส่งตรงถึงลูกค้าเลย ส่งผลให้มีต้นทุนที่สูงกว่าทำน้ำแข็งในห้องเย็น เนื่องจากไม่สามารถทำเวลากลางคืนอย่างเดียวได้ ขณะที่ลูกค้ามักมาเอาน้ำแข็งช่วงเวลากลางวันทำให้มีค่าใช้จ่ายไฟฟ้าค่อนข้างสูง จึงได้หาทางลดตุ้นทุนดังกล่าว ประกอบกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้มีมาตรการเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกิน 3.5% ต่อปีวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ผ่านโครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งพร้อมปล่อยเงินกู้ผ่านสถาบันการเงิน จำนวน 4,489 ล้านบาท พร้อมมุ่งเน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตน้ำแข็งและธุรกิจห้องเย็น ซึ่งทางกรมจะมาตรวจสอบทางบริษัททุก ๆ ปีและพบว่าบริษัทฯ ใช้ไฟกลางวันเป็นหลักส่งผลให้ต้นทุนสูง จึงได้เสนอโครงการดังกล่าวมา ซึ่งตนก็สนใจเป็นอย่างมาก
ตนจึงได้ศึกษาบริษัทที่ดำเนินการติดตั้งโซล่าเซลล์ ซึ่งมีหลายเจ้าได้ติดต่อเข้ามา จนเมื่อพบกับอีโคเทคที่มีการบริหารจัดการได้ครบวงจร ไม่ว่าจะศึกษาโครงการ ออกแบบระบบประกอบกับประสิทธิภาพอุปกรณ์ที่ส่งตรงจากเยอรมันที่มีประสิทธิภาพตรงใจ ในด้านคุณภาพที่น่าจะมีอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 30 ปี จึงได้เซ็นต์สัญญากับอีโคเทคเพื่อวางระบบโซล่าเซลล์ด้วยงบประมาณ 35 ล้านบาท จากการติดตั้งโซล่าเซลล์จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เพราะไม่เพียงลดค่าใช้จ่ายอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 500,000 บาทต่อเดือน ยังสามารถคืนทุนได้ไม่เกิน 5-7 ปี ซึ่งถือว่าตอบโจทย์สำคัญในเชิงธุรกิจ
“หลังจากบริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้โซล่าเซลล์ในโรงงาน ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน ซึ่งมีอุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 30-40 องศา เหมาะสมอย่างมากกับการใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ถือเป็นพลังงานสะอาด ซึ่งนอกจากลดต้นทุนแล้วยังสามารถลดภาวะโรคร้อนเพื่อฟื้นสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่านโซล่าเซลล์มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการลดค่าใช้จ่ายขององค์กร รวมถึงการบริหารจัดการ อีกทั้งยังสามารถสร้างกำลังในการต่อรองในเชิงธุรกิจได้” นางภาวนา กล่าว
ด้านนายอุรชาติ กสิวงศ์สุนทร กรรมการบริหาร บริษัท อีโคเทค พาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า ในอดีตบริษัท ฯ เคยเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้ามาก่อนจนถึง 2547 ทางบริษัทฯ จึงได้เพิ่มไลน์ธุรกิจด้านโซล่าเซลล์ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) รวมไปถึงการออกแบบแผ่นโซล่าเซลล์ภายใต้แบรนด์ อีโคจี (EcoG) โดยมุ่งไปที่ลูกค้าไทยเป็นหลัก ก่อนยกระดับสู่การรับออกแบบติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ให้โรงงานต่างๆ โดยบริษัท ฯ ให้บริการระบบโซล่าเซลล์แบบครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบระบบ การทำเฟสซิลิตี้ให้กับโครงการ จัดหาสถาบันการเงิน ขอใบอนุญาต ไปจนถึงการก่อสร้าง รวมถึงการรับประกันและรับซื้อกลับเมื่อลูกค้าต้องการจำหน่ายซาก
“เราเป็นบริษัทฯ แรก ๆ ที่กล้ารับประกันเพาเวอร์เอาท์พุดถึง 100% ถึงอย่างนั้นเราก็มีกำลังการผลิตมากกว่านั้นถึง 15-20% ในแต่ละไซส์งาน เนื่องจากตัวสินค้าที่ใช้เป็นสินค้าจากยุโรปทั้งหมด โดยเฉพาะแผงเออีโซล่า (AESOLAR) ซึ่งถือเป็นแผงโซล่าเซลล์ที่มีนวัตกรรมติดTOP 10 ของโลก ด้วยคุณสมบัติที่สำคัญคือสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้แม้มีเงามาบังแผงโซล่าเซลล์ ทำให้มีประสิทธิภาพในใช้งานที่สูง รวมถึงลดอันตรายจากอัคคีเพลิง คือลดผลจากกระแสไฟฟ้าช็อตบนหลังคา เราเป็นตัวแทนเพียงผู้เดียวให้กับบริษัท เออีโซล่า (AESOLAR) จากประเทศเยอรมัน ทำให้ยอดจัดจำหน่ายของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีละ 300-400% ทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบแม้ในช่วงวิกฤตโควิด” นายอุรชาติ กล่าว
นายอุรชาติ บอกอีกว่า การติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงานมีความจำเป็นต่อบริษัทขนาดใหญ่และบริษัททั่วไปที่ยังคงต้องการใช้ไฟฟ้าอยู่ อีกทั้งราคากระแสไฟฟ้าในประเทศไทยยากที่จะลดลง เนื่องจากการไฟฟ้าฯยังต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากเอกชนมากกว่า 70% ทั่วประเทศ ประกอบกับข้อสัญญากับเอกชนเหล่านั้น เป็นสัญญาระยะยาวจึงยากที่จะราคาไฟฟ้าในประเทศจะลดลงได้ การใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่า 1 บาทต่อหน่วย
ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบระบบโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีธุรกิจที่ครอบคลุมแบบครบวงจร ปัจจุบันเรามีผลงานมากกว่า 300 ไซส์ ใน 44 จังหวัด และครั้งนี้เราได้ปักธงเพิ่มในจังหวัดอุตรดิตถ์ ผ่านโครงการคุณภาพให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส พี ไอซ์ (2556) ที่มีขนาดการติดตั้ง 982 กิโลวัตต์ เรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี