24 สิงหาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ SM Magazine (เอสเอ็มแมกกาซีน) นิตยสารการตลาดชั้นนำ ร่วมกัน จัดงานสัมมนา "5G & The Future of Industries" 5G กับอุตสาหกรรมไทยในอนาคต เพื่อนำเสนอข้อมูลแก่ภาคธุรกิจและประชาชนถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในหลากหลายอุตสาหกรรม
การพัฒนาของเทคโนโลยี 5G ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก เพราะประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G นี้มีมากกว่าด้านการสื่อสาร หรือการส่งผ่านข้อมูลในระดับบุคคลเท่านั้น แต่มาตรฐานของเทคโนโลยี 5G ที่ช่วยให้เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลแบบไร้สายนั้น เทียบเท่ากับการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์เทคโนโลยี ซึ่งเมื่อนำมาใช้ในภาคธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม ยานยนต์ การขนส่ง สิ่งก่อสร้าง พลังงาน การเงิน สุขภาพ ฯลฯ ซึ่งย่อมจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการได้อย่างมหาศาล ดังนั้นแล้วสามารถกล่าวได้เลยว่าเทคโนโลยี 5G จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในหลายประการ
นางกัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน งานสัมมนา "5G & The Future of Industries" ว่า สำหรับประเทศไทย เทคโนโลยี 5G เปรียบเสมือนรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การพลิกโฉมอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสร้างประโยชน์ให้กับภาคเศรษฐกิจในระยะยาวด้วยเทคโนโลยี 5G ถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่ถูกเปรียบเปรยว่า การมีเทคโนโลยี 5G ก็ไม่ต่างจากยุคสมัยที่โลกเริ่มมีไฟฟ้าใช้เมื่อ 100 ปีก่อน ซึ่งเป็นผลให้ธุรกิจอุตสาหกรรมทุกแขนงในยุคนั้นสามารถพัฒนาเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมได้ในเวลาอันรวดเร็ว
จนมาถึงการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี 5G ในยุคปัจจุบัน ที่เริ่มมีการใช้งานกันมาระยะหนึ่งแล้วในประเทศไทย ภาครัฐเองก็มีความตั้งใจและเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อรองรับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ให้เชื่อมโยงและใช้ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมในอนาคต ด้วยมั่นใจว่าเทคโนโลยี 5G เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคต่อจากนี้
พร้อมกันนี้ “คุณกัลยา” กล่าวย้ำว่า ถึงเวลาแล้วจริง ๆ ที่ธุรกิจอุตสาหกรรมไทยควรนำประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G มาใช้ เพื่อปลดปล่อยศักยภาพและสร้างประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นจะเท่ากับช่วยส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม ให้เติบโตสู่ระดับชั้นนำของโลกต่อไป
ด้าน คุณสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการโทรคมนาคม ได้กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "5G is Booming sooner than later" ว่า กสทช. มุ่งมั่นสานต่อนโยบายยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ให้ไทยเป็นที่หนึ่งในอาเซียน หลังจากที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดสรรคลื่นความถี่รองรับ 5G สำเร็จในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ทำให้ประเทศไทยเริ่มมีการวางโครงข่าย 5G รองรับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ก่อนชาติอื่นๆ แล้ว ยังมีเรื่องที่กำลังเร่งดำเนินการให้เกิดการใช้งาน 5G เพื่อสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่าง
ยั่งยืนอีก 4 เรื่อง คือ 1. การวางโครงข่าย 5G ในพื้นที่อุตสาหกรรมและพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศ 2. การจัดสรรคลื่นความถี่อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมในมิติความครอบคลุม (Coverage) และประสิทธิภาพ (Capacity) 3. การใช้งานในภาคส่วนต่างๆ โดยเริ่มจากภาคส่วนที่เป็นจุดแข็งของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ การเกษตร และการแพทย์ 4. การส่งเสริมการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ให้มีมาตรฐานที่ปลอดภัยและมีราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสกับ 5G โดยทั่วกัน
“เชื่อมั่นว่าหัวใจของความสำเร็จในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 5G ที่รุ่งเรือง หรือ Booming ได้เร็วที่สุด คือ พลังจากภาครัฐทุกหน่วยงานที่จะต้องเล็งเห็นประโยชน์และประยุกต์ใช้ 5G ในภารกิจของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพราะโลกในยุคต่อไปหลังจาก New Normal จะเป็นโลกแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางเลือก เป็นโลกของคนรุ่นใหม่และคนที่เปิดใจยอมรับบริการภาครัฐที่ทันสมัย อาศัยเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวก มีความรวดเร็ว แม่นยำ และเชื่อมโยงกันทั้งระบบ เพราะฉะนั้น จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปยืนอยู่ในแนวหน้าของยุคอนาคตให้ได้”
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวถึงประเด็น “5G ยกระดับนวัตกรรมประกันภัย คุ้มครองสิทธิประชาชน” ว่า เทคโนโลยี 5G จะมีบทบาทในวิถีชีวิตแบบ New Normal มากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจประกันภัย ที่เทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นจนถึงการสิ้นสุดกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย อย่างการเริ่มต้นที่กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ลูกค้า การใช้เทคโนโลยี 5G จะช่วยเพิ่มการใช้งานอุปกรณ์ตรวจวัด เช่น Sensor และอุปกรณ์ IOT ต่างๆ ที่มีการรับส่งข้อมูลตลอดเวลาได้ในปริมาณที่มากขึ้น โดยมีต้นทุนที่ต่ำลงมาก เมื่อมีการรับส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงและความต้องการลักษณะความคุ้มครองของลูกค้าที่รวดเร็วฉับไวให้แก่บริษัทประกันภัยแล้ว การพัฒนารูปแบบความคุ้มครองและเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและความต้องการของลูกค้าก็จะสามารถทําได้อย่างรวดเร็ว หรือเป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น
ในส่วนต่อมาที่เทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจประกันภัย คือ กระบวนการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการด้านประกันภัยให้แก่ลูกค้า ซื่งเมื่อเกิด COVID 19 การพบเจอหน้ากันกลายเป็นเรื่องที่ต้องระวัง นำมาซึ่งการใช้ระบบ Teleconference หรือผ่านโปรแกรมแชตแบบเห็นหน้าต่าง ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถทําได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้เลย หากขาดเทคโนโลยี เครือข่ายไร้สายที่สามารถตอบสนองการรับส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเทคโนโลยี 5G ที่เข้ามาช่วยเชื่อมต่อผู้คนได้เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ 5G ยังมีส่วนสําคัญในการช่วยเหลือผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง คือ เรื่องกระบวนการเรียกร้องเงินหรือค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดเหตุขึ้น อาทิ หากนําเทคโนโลยี 5G ปรับเข้ามาใช้ในกระบวนการนี้ ตัวลูกค้าอาจไม่มีความจําเป็นต้องรอผู้สํารวจภัยเดินทางมาถ่ายรูป โดยลูกค้าสามารถถ่ายรูป หรือ ถ่ายวิดีโอ สภาพอุบัติเหตุ และนําส่งให้บริษัทไปประมวลผลพิจารณาเคลมได้เองเลย เป็นต้น
สำหรับในช่วงเสวนาหัวข้อ “5G Commercial reality” ได้รับเกียรติจาก คุณนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไทยไอโอที, คุณวุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด, คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ
คุณจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสิริ เวนเจอร์ส บริษัทในเครือแสนสิริ มาร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของ 5G ที่จะเข้ามาช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆ ในไทยได้อย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ ทางด้าน คุณไพฑูรย์ ศิริฉัตรชัยกุล รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงประเด็นความสำคัญของการเทคโนโลยี “5G พลิกฟื้นธุรกิจยุค New Normal” ว่าการระบาดของ COVID 19 เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องของการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัยของสินค้ามากขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิต ฯลฯ ดังนั้น ในมุมของผู้ประกอบการธุรกิจทั้งหลายต้องพัฒนาก้าวไปสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ อย่างในภาคการผลิตและผู้ประกอบการธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องปรับตัวประยุกต์ใช้ไอทีดิจิทัล อย่างในภาคการผลิตต้องผสมผสานกันระหว่างระบบ Automation ในสายการผลิตกับ Internet of Things
โดยเทคโนโลยีดิจิทัลควบคุมเครื่องจักรให้เครื่องจักรสื่อสารข้อมูลกันเอง หรือ ในอุตสาหกรรมการเกษตร ก็สามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาให้กลายเป็น Smart Farming ที่ช่วยให้ได้ผลผลิตมากขึ้น รวมถึงการนำ 5G มาใช้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้าง Amazing Thailand in 360 Virtual Reality ตลอดจนนำมาใช้ยกระดับสาธารณสุขไทย ด้วยการแพทย์ทางไกล Telemedicine เหล่านี้เป็นต้น
ส่วน คุณบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เผยบนเวทีเสวนาในหัวข้อ "พลังงานในโลกยุค 5G" ว่า 5G เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเครือข่าย Internet of Energy ซึ่งจะส่งผลทำให้อุตสาหกรรมพลังงานเกิดการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด 5G เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับอุปกรณ์ IoT และข้อมูลได้มากขึ้นหลายเท่าตัว และสามารถรับส่งข้อมูลเพื่อนำไปประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การส่ง การจำหน่าย และการใช้พลังงาน ลดการสูญเสีย อาทิ การใช้ระบบ ESS ในการบริหารการกักเก็บพลังงานส่วนเกินที่เหลือจากกำลังการผลิต และการนำออกมาใช้ในยามจำเป็น หรือในยามที่โรงไฟฟ้าไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ รวมทั้งการจัดการระบบไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพ ส่งไฟฟ้าไปในแหล่งที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในปริมาณที่พอเพียง หรือ Smart Grid รวมทั้งการพัฒนา Application ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้เกิดความสะดวก ความประหยัด ในการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟ เช่น P2P Energy Trading V2G Energy Audit เป็นต้น ประสิทธิภาพดังกล่าวสอดคล้องกับหลัก Circular Economy ซึ่งช่วยให้เกิด Sustainable Future
ช่วงท้ายของงานได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อ "ถอดบทเรียน ไทยชนะ สู่การปฏิรูป Thailand Big Data" โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ภัสด์ พุทธาพิพัฒน์ Head of Product Development, True Analytics, True Digital Group และ ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) มาร่วมแชร์มุมมองเกี่ยวกับการความสำคัญของ Big Data และการนำมาประยุกต์ใช้งานให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนร่วมอย่างในกรณีของ แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” และต่อภาคธุรกิจเพื่อให้ทันกับการแข่งขันที่เข้มข้นในทุกวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี