นายปณต บุณยะโหตระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า สำนักงานฯ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ร่วมมือกับ นิว จิวเวลเลอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย กรุ๊ป และ ดูไบ โกลด์ แอนด์ จิวเวลรี่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย จัดสัมมนาออนไลน์หัวข้อ “การค้าอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างประเทศไทยและภูมิภาคตะวันออกกลาง : การเสริมสร้างความเข้มแข็งระหว่างกัน”
โดยได้ใช้โอกาสนี้ เชิญชวนให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าและนักธุรกิจในกลุ่มตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) เข้าร่วมชมงานและเจรจาธุรกิจในงาน BGJF Special Edition - On Ground to Online Exhibition” ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2563 เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำการค้า ระหว่างกันในรูปแบบ New Normal ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างโอกาสในการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทยได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยังได้เชิญชวนให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 66 ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเลื่อนการจัดไปเป็นวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 2564 ด้วย โดยได้ชี้แจงไปว่าจะเป็นการจัดงานแบบยิ่งใหญ่เหมือนเดิม และจะมีการนำเสนอสินค้าเด่นของไทย สินค้าจากช่างหัตถศิลป์ฝีมือไทย ซึ่งได้รับความสนใจไม่แพ้กัน
สำหรับตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นตลาดสำคัญในการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย โดยมีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 43% ของมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ทั้งหมดไปประเทศกลุ่ม MENA
นายอนุรัก สินหา ประธานกรรมการบริษัท ลีอาลี จิวเวลรี่ กล่าวว่า พร้อมเข้าร่วมงานบางกอก เจมส์ เพราะสินค้าไทยมีการนำเสนอดีไซน์ที่โดดเด่น มีความได้เปรียบในด้านฝีมือการเจียระไน มีสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่อัญมณีที่เจียระไนขั้นต้น ไปจนถึงเครื่องประดับที่สร้างสรรค์อย่างประณีต
นายเมฮรัน มหาลาตี ประธานกรรมการบริษัท มหาลาตี จิวเวลรี่ กล่าวว่า ปัจจุบันแม้จะมีตลาดอัญมณีและเครื่องประดับเกิดใหม่มากมาย เช่น เวียดนามและจีน แต่การทำธุรกิจกับไทยมีความง่าย และเมื่อเทียบฝีมือและคุณภาพของ
ชิ้นงานแล้ว ไม่มีที่ไหนเอาชนะไทยได้ โดยยืนยันที่จะทำธุรกิจกับไทยต่อไป
น.ส.มหา อัล ซีไบ นักออกแบบและผู้ก่อตั้งบริษัท มหา อัล ซีไบ จิวเวลรี่ กล่าวว่า ไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญของโลกได้ เพราะฝีมือการดีไซน์ งานหัตถศิลป์ และคุณภาพของสินค้าไทย เป็นที่ยอมรับระดับโลกมาเสมอ โดยขอแนะนำว่าควรมีแพลตฟอร์มให้นักออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับของไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ และยังมีแผนที่จะเปิดฐานการผลิตในไทยด้วย
ทั้งนี้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วง 5 เดือนของปี 2563 (มกราคม-พฤษภาคม) มีมูลค่า 9,579.95 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 108.01% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 298,877.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.76% แต่หากหักทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนออก การส่งออกมีมูลค่า 1,984 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 34.80% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 60,962.51 ล้านบาท ลดลง 36.49% สาเหตุที่ทำให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับรวมทองคำเพิ่มขึ้นมาก เพราะส่งออกทองคำได้มูลค่าสูงถึง 7,595.95 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 386.10% จากการส่งออกไปทำกำไรจากส่วนต่างของราคา และเก็งกำไรราคา ในช่วงที่ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น และคนได้หันมาซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้มีการส่งออกมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี