"นายกฯ"เป็นประธานรับมอบรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู"แคราย-มีนบุรี" และสายสีเหลือง"ลาดพร้าว-สำโรง" ระบุทุกเรื่องถ้าได้รับแรงใจจากประชาชนเดินหน้าได้หมด โยน"รมว.คมนาคม-คกก."แก้ปมรถไฟฟ้าสายสีส้ม รับห่วงใย เพราะทำให้ล่าช้า
เมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง (ท่า C0) ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีรับขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล ขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย - มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว - สำโรง) ซึ่งเป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้กำกับการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ในรูปแบบ PPP Net Cost ตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนเชื่อมต่อเส้นทางคมคมทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ และหลายเรื่องประเทศไทยต้องเร่งรัดให้ตรงความต้องการในอนาคต ขณะเดียวกันวันนี้ก็ได้มีโอกาสพบกับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีหลายอย่างที่ระบุว่าอยากให้เราพิจารณาเพิ่มเติม โดยยืนยันตนจะทำทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติให้มากที่สุด อะไรที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต้องคลี่คลาย โดยเฉพาะวันนี้ที่โลกเปลี่ยนเราต้องปรับ ต้องเปลี่ยนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะมีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามาทำให้มีการเปลี่ยนหลายอย่าง ทำให้ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่นอกจากเรื่องท่องเที่ยวและการส่งออก ต้องก็ต้องส่งเสริมในด้านอื่นๆ เช่น การผลิต เพื่อเป็นประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลางให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายกฯ มายินดีคนเดียวไม่ได้แต่ทุกคนมาร่วมแสดงยิน และต้องทำให้คนไทยได้ร่วมยินดีโดยได้ใช้ประโยชน์จากโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้าโมโนเรลทั้งสองสายนี้จะพร้อมให้บริการประชาชนในปี 2022 สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลก่อน และรัฐบาลนี้ดำเนินการ ซึ่งทุกเรื่องถ้าได้รับแรงใจจากประชาชนเราก็จะเดินหน้าและแก้ปัญหาได้ วันนี้เชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมดแล้ว แต่ปัญหาเราคือปัญหาการจราจร จึงขอความร่วมือภาคประชาชนด้วย นอกจากนี้เห็นรถขบวนใหม่นี้แล้วถือว่ามีความสวยงามและต้องปลอดภัย วันหน้าไทยต้องผลิตเองได้แล้วหรือผลิตชิ้นส่วน เพื่อสร้างอุตสาหกรรม จึงต้องคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าและทั้งหมดได้กำหนดในแผนยุทธศาสตร์ชาติ และต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่กำหนดไว้ก็ไปไม่ได้
นายกฯ กล่าวอีหว่า วันนี้จะสร้างวิธีคิดใหม่ เร่งรีบจากสถานการณ์จราจรต่างๆ สิ่งสำคัญทำให้คนหันใช้มากขึ้น คนส่วนใหญ่ยังใช้รถส่วนตัว จึงต้องไปดูที่จอดแล้วจอน อาจเกิดธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมาอีกได้ โดยต้องไม่ใช่เกิดขึ้นแค่เฉพาะกรุง แต่ต้องไปสู่ทุกเมืองใหญ่ในประทศ เพราะหลายจังหวัดก็มีปัญหาเรื่องคมนาคมขนส่ง จึงหวังความสำเร็จนี้เป็นระยะที่ 1 วันนี้รถไฟฟ้าปกติก็มีอยู่แล้วและเกิดขึ้นหลายสาย ถามว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงต้องช่วยทำความเข้าใจกันด้วย และฝากขอให้ดูแลประชาชนให้มากที่สุดในเรื่องค่าใช้จ่าย ย้ำว่ารัฐบาลขับเคลื่อนทุกอันเพื่อให้ประเทศก้าวข้ามกับดักปัญหาทุกประการ และวันนี้เราต้องรวมไทยสร้างชาติต้องรวมกันทั้งหมด เพราะเราคือคนไทยต้องรักประเทศไทยของเรา
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกฯ ได้กล่าวแนะนำรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่มาร่วมงาน ว่า วันนี้มาหลายคน รองนายกฯ ก็มา ซึ่งทุกคนเดินหน้ากับนายกฯ เพื่อเดินหน้าทุกอุปสรรค จึงขอให้สร้างความเข้าใจกันให้มากกว่า เพื่อร่วมกันเดินหน้าประเทศ และย้ำว่ายุทธศาสตร์ชาติต้องทำต่อเนื่อง เพราะไม่ได้อยู่แค่เรา แต่ต้องทำเพื่ออนาคตลูกหลานของเราด้วย จากนั้น นายกฯ ทำการตัดริบบิ้นรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก แล้วเยี่ยมชมภายในขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สาย
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก สายสีชมพู-เหลือง ว่า เราเดินหน้ามานานแล้ว จะเห็นได้ว่าเรามีการพัฒนารถไฟฟ้าระบบรางเป็นรถไฟฟ้ารางเดียว ซึ่งจะนำมาใช้ในการขนส่งในกรุงเทพฯ และต่อไปจะต้องมีการนำไปลงในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งภาคเอกชนกำลังไปศึกษาเมืองที่มีประชากรหนาแน่น มีนักท่องเที่ยว การจราจรติดขัด เพราะต้องใช้รถไฟฟ้าหมด ซึ่งรัฐบาลกำลังเดินหน้าไป แต่อาจจะใช้ระยะเวลาไม่สั้น
เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - บางขุนนนท์ และเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตลอดเส้นทางบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี ได้ปรับเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกใหม่ จนมีการร้องเรียนในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของ รมว.คมนาคม และคณะกรรมการฯ ที่มีอยู่หลายขั้นตอน ก็ต้องไปชี้แจง เอาหลักฐาน และความถูกต้องไปพิจารณา ตนก็มีความห่วงใยในความล่าช้า แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้อง ซึ่งมีคณะทำงานดำเนินการอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การดำเนินการจะต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ คณะกรรมการฯ ดำเนินการอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น เมื่อถามว่า กรณีนี้จะกระทบความเชื่อมั่นกับต่างประเทศหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่พวกเราลองดูแล้วกัน รอฟังคำชี้แจง บางทีก็เห็นว่ามีการร้องเรียนมา ชี้แจงไปแล้วจบก็ทำได้ เราต้องช่วยกัน ผลประโยชน์อยู่ที่ไหนก็ไปหากันมา แต่ประชาชนจะได้ประโยชน์หรือไม่ ก็ต้องดูผลประโยชน์ของประชาชนด้วย ต้องดูสองทางเสมอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี