บอร์ดธ.ก.ส.ไฟเขียว

บัตรสินเชื่อเกษตรกร

รูดซื้อสินค้าบริโภค

เริ่มนำร่องที่ข้าวสาร

บอร์ดธ.ก.ส.ไฟเขียวเกษตรกรที่ถือบัตรสินเชื่อฯ สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค นำร่องที่ข้าวสารจากเดิมที่ใช้ได้เฉพาะปัจจัยผลิต ล่าสุดจับมือสกต. บริษัทไทยธุรกิจเกษตร และบริษัทผู้จำหน่ายปุ๋ยจัดหาปุ๋ย 4 แสนตัน ขายให้แก่เกษตรกรบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาปุ๋ยแพง

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการธ.ก.ส.เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม2556 มีมติให้เกษตรกรที่ถือบัตรสินเชื่อเกษตรกรสามารถนำมารูดซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคได้ โดยเริ่มจากข้าวสาร จากเดิมกำหนดให้รูดซื้อได้เฉพาะปัจจัยการผลิต 4 ประเภท คือ เมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และน้ำมัน โดยได้กำชับไปยังธ.ก.ส.ว่าให้เร่งแจกจ่ายบัตรให้ครบ 4 ล้านใบ และเพิ่มจำนวนร้านค้าให้ครบ 1 หมื่นร้าน ในปีนี้

ทั้งนี้ล่าสุดได้ดึงบริษัทปุ๋ยทั้ง 25 แห่ง บริษัท ไทยธุรกิจเกษตร สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. จำกัด (สกต.) ในการจัดหาปุ๋ยช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล จำนวน 400,000 ตัน โดยปุ๋ยดังกล่าวนำไปขายผ่านสกต. ในราคายุติธรรม เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดภาระดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกร

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันธ.ก.ส. ได้อนุมัติบัตรสินเชื่อฯให้เกษตรกรแล้ว 2.66 ล้านใบโดยจากการสำรวจข้อมูลพบว่า เกษตรกรที่ใช้บัตรสินเชื่อฯซื้อปุ๋ยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 75% ของมูลค่าปัจจัยการผลิตผ่านระบบบัตรสินเชื่อฯ ซึ่งเกษตรกรที่ถือบัตรสินเชื่อฯที่ซื้อปุ๋ยผ่าน สกต.จะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยถึง 5 เดือน โดยเตรียมจะเพิ่มการจัดหาปุ๋ยเป็น 1 ล้านตัน ภายใน 5 ปี หรือประมาณ 20% ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมดที่ใช้ในประเทศประมาณ 5 ล้านตัน

โครงการจัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรมีเป้าหมายดำเนินการผ่านสกต.ทั้ง 77 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยในปี 2556 จะจัดหาปุ๋ยเคมีตราลูกโลกเกลียวเชือก และตราบริษัท ประเภทปุ๋ยผสม (Compound Fertilizer) เพื่อใช้กับทุกพืชและปุ๋ยเคมีผสมแบบคลุกเคล้า (Bulk Blending) เฉพาะที่ใช้กับยางพารา ปาล์มน้ำมัน และสับปะรด ตามความต้องการของเกษตรกร เกษตรกรสามารถสั่งซื้อปุ๋ยและชำระค่าปุ๋ยโดยใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกร ได้ที่ สกต. หรือตัวแทนของ สกต. ทุกจังหวัด รวมทั้งร้านค้าเครือข่ายชุมชนที่เข้ามาร่วมโครงการ

นอกจากนี้ธ.ก.ส.ได้ลงนามความร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตรในการดูแลคุณภาพปุ๋ยและการพัฒนาร้านค้าในโครงการบัตรสินเชื่อให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน Q-Shop พร้อมทั้งมีการตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เกษตรกรจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพในราคายุติธรรม