วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
CIMBผวา‘เงินร้อน’ ป่วนตลาดหุ้น/ชี้‘บาท’แข็งค่าได้อีก6%

CIMBผวา‘เงินร้อน’ ป่วนตลาดหุ้น/ชี้‘บาท’แข็งค่าได้อีก6%

วันศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : เงินร้อน ตลาดหุ้น CIMB
  •  

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัวจากภาคการส่งออกตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่เป็นระยะๆ

ส่วนมาตรการทางการเงินทางธปท.ไม่น่าจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่น่าจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมมาช่วยสนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กเป็นมาตรการที่ตรงจุดแทน และอาจผ่อนคลายเกณฑ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้สินเชื่อเติบโตได้ดีขึ้น


อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะกว่าที่จะสามารถเปิดประเทศให้ต่างชาติเดินทางได้สะดวกมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ธุรกิจกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง และภาคการค้าปลีกต่างยังประสบปัญหาขาดรายได้ และอาจทำให้การจ้างงาน การใช้จ่ายของคนในกลุ่มนี้ยังฟื้นตัวช้า

“โดยสรุป เรามองว่าเมื่อประเทศสำคัญเริ่มเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น แม้ไวรัสโควิด-19 ยังคงมีการระบาดอยู่บ้าง แต่ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ประกอบกับฐานที่ต่ำในปีก่อน เศรษฐกิจโลกปีหน้าน่าจะฟื้นตัวได้ดี ซึ่งจะสนับสนุนการส่งออกสินค้าของไทยและเป็นปัจจัยผลักดันเศรษฐกิจไทยในปี 2564”

พร้อมเตือนให้ระวังเงินร้อนฉุดบาทแข็งว่า เพราะแม้เศรษฐกิจปีหน้ากำลังฟื้นตัวได้ดีขึ้นผ่านเครื่องจักรสำคัญคือภาคการส่งออกสินค้า แต่ปัจจัยเสี่ยงของปีหน้าก็คือตัวแปรสำคัญที่กระทบภาคการค้าระหว่างประเทศ นั่นคือ ค่าเงินบาทที่มีทิศทางแข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ และอาจแข็งค่าเทียบประเทศคู่ค้าสำคัญรายอื่นๆ ของไทยด้วย โดยเงินบาทที่แข็งค่ามาจากปัจจัย เกินดุลการค้าที่มากขึ้นตามการส่งออก

ปัจจัยที่สอง คือ กระแสเงินไหลเข้าในตลาดทุนที่มากขึ้น ทั้งจากการคลายความกังวลในวิกฤติเศรษฐกิจ จากสภาพคล่องที่ล้นระบบตลาดการเงินในประเทศสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ ส่งผลให้เงินลงทุนเก็งกำไรจากต่างชาติเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย ซึ่งเงินร้อน หรือเงินลงทุนหวังผลกำไรระยะสั้นจากสภาพคล่องที่ล้นเหล่านี้ ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของไทยที่เกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง น่าจะมีส่วนสำคัญให้เงินบาทแข็งค่าได้เร็วในปีหน้า

“เรามองว่าเงินบาทที่แข็งค่าได้ถึง 6% จากปลายปีนี้หรือไปแตะระดับ 28.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปลายปีหน้านี้ อาจมีผลให้การส่งออกสินค้าเติบโตได้ช้าลงกว่ากรณีที่เงินบาทไม่ได้แข็งเช่นที่คาดนี้ แม้การส่งออกรูปดอลลาร์สหรัฐ ยังเป็นบวกตามความต้องการที่ดีขึ้นในตลาดโลก บาทที่แข็งค่าเร็วและแรงอาจดูเป็นไปได้ยากแต่หากดูภาพการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่แข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ หลังวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 ช่วงเฟดทำ QE ต่อเนื่องและหลังตลาดคลายความกังวลในสภาพคล่องรูปดอลลาร์สหรัฐฯ เราอาจได้เห็นเงินร้อนท่วมตลาดเกิดใหม่อีกรอบ ผู้ส่งออกอาจลองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินช่วยป้องกันความเสี่ยงจากบาทแข็งและหาทางถือเงินดอลลาร์สหรัฐไว้ใช้จ่ายมากกว่าแลกกลับเป็นเงินบาทเพื่อลดต้นทุนจากการแลกเปลี่ยนเงิน”ดร.อมรเทพกล่าว

ทั้งนี้ต้องฝากความหวังกับทั้งกระทรวงการคลังและธปท.ในการสกัดเงินร้อน หรือหามาตรการเร่งให้เกิดความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาท แต่เชื่อว่ามาตรการเหล่านี้คงยากที่จะต้านทานกระแสเงินร้อนได้

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ทรีนีตี้ ชี้ 2 ปัจจัยใหญ่กำหนดทิศทางการลงทุนเดือน ก.ค. ทรีนีตี้ ชี้ 2 ปัจจัยใหญ่กำหนดทิศทางการลงทุนเดือน ก.ค.
  • ปัญหาการเมือง ศึกตะวันออกกลาง กดดันตลาดหุ้น นักลงทุนเทขาย ปัญหาการเมือง ศึกตะวันออกกลาง กดดันตลาดหุ้น นักลงทุนเทขาย
  • CIMB THAI สานสัมพันธ์ธุรกิจไทย–มาเลเซียเสริมแกร่งการค้าอาเซียน CIMB THAI สานสัมพันธ์ธุรกิจไทย–มาเลเซียเสริมแกร่งการค้าอาเซียน
  • ซีไอเอ็มบี เปิดตัว สปีดดี พลัส รับดอกเบี้ยรวมโบนัสสูงสุด 2.10% ต่อปี ซีไอเอ็มบี เปิดตัว สปีดดี พลัส รับดอกเบี้ยรวมโบนัสสูงสุด 2.10% ต่อปี
  • แวดวงการเงิน : 23  เมษายน 2568 แวดวงการเงิน : 23 เมษายน 2568
  • มหาสงครามการค้า \'เกมแพงของโลก เดิมพันเศรษฐกิจไทย มหาสงครามการค้า 'เกมแพงของโลก เดิมพันเศรษฐกิจไทย
  •  

Breaking News

สตม.โชว์ผลงาน! รวบ'ชาวจีน'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่

เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้

อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก

(คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved