แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม รายหนึ่งแจ้งว่าต้องจับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 5 มกราคม นี้ ซึ่งประเด็น การสรรหา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชุดใหม่ ที่ยืดเยื้อมานาน ทั้งนี้ คนในวงการรู้กันดีว่าสาเหตุที่แท้จริงที่กระบวนการจ้องล้มการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ กำลังทำทุกวิถีทาง โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ใหญ่ในรัฐบาล เลื่อนการสรรหาครั้งนี้ออกไปก่อน เพื่อซื้อเวลาให้ 2 รายชื่อบิ๊กเนมที่ผ่านการสรรหาแต่ขาดคุณสมบัติ ได้มีโอกาสได้นั่งเป็นบอร์ดกสทช.ชุดใหม่
ขณะนี้สำนักเลขาธิการครม. (สลค.) กำลังพิจารณาข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดว่า ครม.มีอำนาจสั่งให้ชะลอ หรือยุติกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ หรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติเห็นชอบให้เริ่มกระบวนการสรรหา ไปตั้งแต่เมื่อการประชุมครม. วันที่ 16 มิ.ย.2563 ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการสรรหา อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่สมัครเข้ารับการสรรหา
ทั้งสิ้น 80 คน
“เนื่องจาก กสทช. ถือเป็นองค์กรอิสระอื่นตามรธน. ที่ครม.ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายกระบวนการใดๆ ได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.กสทช. ฉบับปัจจุบัน ไม่ได้กำหนดแนวทางชะลอ หรือยุติการสรรหา กสทช. หากเข้าสู่กระบวนการสรรหาแล้วแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้มีเพียงคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 แห่งรธน.ชั่วคราว 2557 เท่านั้น ที่สามารถกระทำได้” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบัน มาตรา 44 รวมทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว ได้ถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว จึงเกิดข้อกังวลว่า หากครม.แทรกแซงกระบวนการสรรหา กสทช.อาจจะเกิดทำให้มีการตีความว่า ครม.ใช้อำนาจโดยมิชอบได้ รวมถึงการอ้างให้รอให้กฎหมายฉบับใหม่แล้วเสร็จ ก็อาจเข้าข่ายฝ่ายบริหารเข้าไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ และ ครม.หากสามารถชะลอ หรือยุติกระบวนการสรรหา กสทช.ตามกระแสข่าวได้จริง ก็อาจทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สาเหตุแท้จริงที่มีความพยายามล้มการสรรหา กสทช. อีกครั้งนั้น เนื่องจากพบว่า ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาบางราย ที่มีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจใน คสช. และในรัฐบาลปัจจุบัน ที่ถูกวางตัวให้เป็น กสทช.ชุดใหม่ มีคุณสมบัติต้องห้ามบางประการ โดยเฉพาะ มาตรา 7 ข. (12) ของ พ.ร.บ.กสทช.ในส่วนของคุณสมบัติต้องห้าม ที่ระบุว่า “เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใดบรรดาผู้ที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลา 1 ปีก่อนได้รับการเสนอชื่อ” ส่งผลให้ผู้มีอำนาจต้องการให้มีการชะลอ กระบวนการสรรหา กสทช.ไปอีกอย่างน้อย 1 ปี แต่หากต้องการให้คนที่ตั้งใจจะให้เป็นกสทช.ชุดใหม่ ที่มีการเซตทีมไว้แล้ว ต้องยื้อเวลา พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ให้นานที่สุด และให้กระบวนการสรรหาดำเนินการตามกฎหมายเก่าไปก่อน เพื่อไม่ให้ติดปัญหาข้อกฎหมาย มาตรา 7 ข.(12) ของ พ.ร.บ. กสทช.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี