นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กล่าวว่า ธนาคารฯ ได้รับใบอนุญาตการจัดตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา จากธนาคารกลางเมียนมา และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มกราคม 2564 นับเป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบธนาคารลูก (Subsidiary License) โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้น 100% ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบเสมือนธนาคารท้องถิ่นในเมียนมา
ธนาคารมุ่งมั่นที่จะให้บริการประชาชนและส่งเสริมธุรกิจในเมียนมาเพื่อให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น มุ่งเน้นการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของ
เมียนมาผ่านการนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อย
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายจะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินและระบบการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ธุรกิจและการเงินดิจิทัลให้กับเมียนมา โดยจะเริ่มต้นพัฒนาด้านระบบการชําระเงินดิจิทัล ทั้ง Corporate portal สำหรับลูกค้าธุรกิจ และ Mobile Banking สำหรับลูกค้ารายย่อยคาดว่าจะให้บริการในปี 2565 ซึ่งจะช่วยลดภาระการใช้และบริหารเงินสดในประเทศ
เมียนมามีศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างสูงถึงแม้ปัจจุบัน สินเชื่อลูกค้าธุรกิจจะเทียบเท่า 87% ของสินเชื่อทั้งหมดที่มีมูลค่า 18,000 ล้านเหรียญ ลูกค้ารายย่อยจะมีเพียง 10% ซึ่งธนาคารกลางเมียนมาคาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อลูกค้ารายย่อยจะเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้นวัตกรรมในรูปแบบสินเชื่อดิจิทัล จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ จากอัตราเพิ่มการใช้งานของ smartphone จาก 80% เป็น 90% ของประชากร ในปี 2561- 2562 และมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เนตเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 ล้าน ในปี 2562-2563
จึงเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสำคัญต่อการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล
ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมาตั้งอยู่ที่ Sule Square Office Tower ซึ่งเป็นเขตธุรกิจสำคัญย่านใจกลางกรุงย่างกุ้ง โดยมี Mr. Rajesh Ahuja ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี