นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)   หรือ ดีแทค กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของดีแทคในปี 2021-2022  ดีแทคจะผลักดันอินเตอร์เนตให้เข้าถึงคนไทยทุกคนทั้งการบริการ 5G และ 4G ในราคาที่เหมาะสม ปัจจุบันคลื่น 2300 MHz ของดีแทคมีการขยายโครงข่ายกว่า 2 พันสถานีฐานแล้ว

“หากมีการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ๆ ดีแทคให้ความสนใจในการประมูลคลื่นความถี่ทุกครั้ง เรามีความพร้อมทั้งเงินลงทุนและแผนงานที่จะนำมาให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จาก 5G ได้มากที่สุด” นายชารัด กล่าว

นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี ดีแทค กล่าวว่า ตามข้อมูลของดีแทคพบว่ามาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมของปี 2563 ที่ผ่านมา ได้พลิกโฉมการใช้มือถือของประเทศไทย การใช้งานดาต้าในส่วนภูมิภาคโตมากกว่าการใช้งานในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ถึง 9 เท่า สอดคล้องกับทิศทางการเพิ่มขึ้นของการใช้งานสมาร์ทโฟนเร็วขึ้น ในส่วนภูมิภาคก็เติบโตเร็วกว่ากรุงเทพฯ ถึง 3 เท่า จากข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำว่าผู้ใช้ในภูมิภาคและพื้นที่ห่างไกลหันมาใช้ดิจิทัลมากขึ้น

ขณะที่ ดีแทค จะเร่งนำคลื่นความถี่ 700 MHz มาให้บริการอินเตอร์เนตความเร็วสูง โดยตั้งเป้าจะขยาย 4,400 สถานีฐานทั่วประเทศภายในไตรมาสที่ 1/64 คลื่น 700 MHz มีประสิทธิภาพในการเพิ่มสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น โดยดีแทคเปิดให้บริการ 5G และ 4G บนคลื่น 700 MHz ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Dynamic Spectrum Sharing (DSS) ทำให้สามารถใช้งานคลื่นเดียวทั้ง 5G และ 4G ไม่ต้องแบ่งแบนด์วิดท์ด้วยประสิทธิภาพเต็มที่สูงสุด

ด้านการตลาดทาง ดีแทคกำหนดกลยุทธ์การออกแบบโครงข่ายโดยดูที่พฤติกรรมและแนวโน้มการใช้งานของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี โดยจากข้อมูลของปีที่ผ่านมา จะเห็นพฤติกรรมลูกค้าใน 4 กลุ่ม คือ 1.เนตภูธรหน้าใหม่ (THE NEW RURALS) พบว่า ปริมาณการใช้งานอินเตอร์เน็ตในภูมิภาคเพิ่มขึ้น2. ขยันผ่านเนตทางไกล (THE REMOTE DESKERS) กลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เนตที่ปรับตัวรับกับความปกติใหม่โดยทำงานและเรียนที่บ้าน 3. อยู่ติดบ้านด้วยเนตบันเทิง (THE NON-STOP STREAMER) 4. เน็ตคือหัวใจสำคัญ (THE CRITICAL USER) กลุ่มผู้ใช้งานที่พึ่งพาระบบอินเทอร์เน็ตเป็นหลักในการปฏิบัติภารกิจ ให้บริการแก่ประชาชนและชุมชน เช่น โรงพยาบาลและบริการฉุกเฉิน รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจ เป็นต้น