nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้(22-26 ก.พ. 2564) โดยระบุว่า...ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง หลังได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติที่บริเวณรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ทำให้การผลิตน้ำมันดิบ ณ บริเวณดังกล่าวต้องหยุดดำเนินการเฉลี่ยราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ นอกจากนั้นราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 1.9ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสภายในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันดิบอาจปรับลดลง หากกลุ่มโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิต ในเดือนเมษายนนี้...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 58-63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 60-65เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล…nn จากภาวะเศรษฐกิจในปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งความผันผวนของราคาน้ำมัน ทำให้บริษัทพลังงานในกลุ่มน้ำมันชั้นนำมีผลประกอบการที่ย่ำแย่กันถ้วนหน้า...เริ่มจากพี่ใหญ่อย่าง...บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)...มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 37,766 ล้านบาท ลดลง 59.4% จากปี 2562...ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน 19,000 ล้านบาท เทียบกับปี 2562 มีกำไรสต๊อกน้ำมัน 2,800 ล้านบาท...ขณะที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)...ในปี’63 บางจากฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 136,450 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน มี EBITDA 4,104 ล้านบาท ลดลง 53%มี Operating EBITDA 8,874 ล้านบาท ลดลง 10%...ส่งผลให้มีผลขาดทุนสุทธิ 6,967 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 5.50 บาท ....ส่วน บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ขาดทุนสุทธิรวม 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,005 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับปี 2562 ขาดทุนสุทธิรวม 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,809 ล้านบาท) ...ปัจจัยหลักจากค่าการกลั่นทางบัญชีติดลบขาดทุนจากราคาสต๊อกน้ำมัน...nn บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC…ขาดทุน 6,152 ล้านบาท...เพิ่มขึ้นจากปี 2562ที่ขาดทุน 1,174 ล้านบาท...nn อย่างไรก็ตามบริษัทพลังงานที่ไม่ใช่บริษัทน้ำมัน กลับมีผลประกอบการที่ไม่ได้แย่ลงเลย...เช่น บริษัท บีซีพีจีจำกัด (มหาชน) หนึ่งผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทยมีรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 4,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% เป็นผลจากการลงทุนในโครงการใหม่ๆ เช่น รับรู้ผลดำเนินการเต็มปี โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว “Nam San 3A” และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ลมลิกอร์” และการเติบโตของโครงการลงทุนที่มีอยู่เดิม...nn บริษัท ทีพีซีเพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) มีรายได้รวม 1,777.37 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 251.51 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 9 แห่ง มีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 99 เมกะวัตต์ ที่ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไปเรียบร้อยแล้ว...nnบมจ.ราชกรุ๊ปฯ ได้ปรับเป้าหมายกำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ เป็นปี 2568 จากเดิมกำหนดไว้ปี 2566 โดยวางแผนที่จะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่เฉลี่ยปีละ 700 เมกะวัตต์ เพื่อชดเชยกำลังผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าราชบุรีที่จะทยอยสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในปี’67-68 โดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตใหม่ 700 เมกะวัตต์ จากพลังงานเชื้อเพลิงหลัก 455 เมกะวัตต์ และพลังงานทดแทน 245 เมกะวัตต์...nn บริษัทบี.กริม เพาเวอร์ตั้งเป้าหมายขยายกำลังผลิตไฟฟ้าให้ถึง 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายกำลังผลิตที่3,682 เมกะวัตต์ ซึ่งมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาคือ โรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังผลิต 16 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย โรงไฟฟ้าไฮบริดในพื้นที่อู่ตะเภา และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอีก 7 โครงการ nn การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เปิดตัวธุรกิจให้บริการซื้อขายเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable EnergyCertificate : REC) รวมทั้งการบริการให้การรับรอง REC ที่กฟผ. ได้รับสิทธิ์จาก The International REC Standard (I-REC) ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้เป็นผู้รับรอง REC แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมา จึงเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาตลาด REC ให้ยั่งยืน เตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้ให้บริการซื้อขายและรับรองเครดิต REC อย่างครบวงจร เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของพลังงานสีเขียวในประเทศไทย และรองรับกลุ่มบริษัท RE100 ที่จะมาลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย เป็นกลไกที่จะช่วยเสริมให้เกิดการพัฒนาการผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ...nn
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี