บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งข่าวว่า ในช่วงเวลาที่สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย และทุกคนยังคงต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนอาจจะลืมไปชั่วขณะ ทั้งที่ปัญหานี้ยังมีอยู่ต่อไปในประเทศไทยก็คือเรื่องมลภาวะทางอากาศจาก PM2.5 ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้จางหายไปไหน และอาจกลับมาสร้างความกังวลให้กับใครหลายๆ คนทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดในประเทศไทยที่กำลังเผชิญกับมลภาวะทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่งที่ต้องลงมือแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วง แต่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่จะลุกขึ้นมาเริ่มต้นทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้ปัญหามลภาวะทางอากาศในประเทศไทยนั้นบรรเทาเบาบางลง
นี่จึงเป็นที่มาให้บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพประกาศความร่วมมือเพื่ออากาศสะอาด (Clean Air Initiative) อย่างเป็นทางการ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย หอการค้าเยอรมัน-ไทย รวมถึงบริษัทดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ทอร์คีโด เอเชีย-แปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจากเยอรมนีที่เข้ามาดำเนินธุรกิจภายในประเทศไทยเช่นเดียวกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 เมื่อเร็วๆ นี้
นายเกออร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ซึ่งให้เกียรติมาร่วมในงานประกาศความร่วมมือเพื่ออากาศสะอาด หรือ “Clean Air Initiative” ในครั้งนี้ด้วย กล่าวถึงความสำคัญของการตระหนักการส่งเสริมสภาวะอากาศสะอาดว่า สภาวะอากาศที่ไม่ดีนั้นสร้างผลกระทบในทางลบได้มากมาย โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยว และการลงทุน ที่สำคัญเมื่ออากาศเต็มไปด้วยมลภาวะ หลายคนอาจเลือกทำงานที่บ้าน ปิดประตูหน้าต่าง หรือ ซื้อเครื่องฟอกอากาศมาไว้ในบ้านได้ แต่ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเลือกทำงานที่บ้านได้ และยังต้องออกไปเผชิญกับ PM2.5 ข้างนอก การทำให้อากาศสะอาดจึงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนร่วมกันจากทุกภาคส่วน
ทั้งความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลเยอรมนี และความร่วมมือของบริษัทเอกชนต่างๆ ในการนำเสนอทางเลือกใหม่ในเชิงธุรกิจที่มีความยั่งยืน และเป็นประโยชน์กับผู้คนในวงกว้างด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต การประกาศความร่วมมือเพื่ออากาศสะอาดในวันนี้จึงถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของหอการค้าเยอรมัน-ไทยและสมาชิกซึ่งเป็นบริษัทจากเยอรมนีที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ที่จะร่วมผลักดันให้ปัญหามลภาวะทางอากาศในประเทศไทยได้บรรเทาเบาบางลงในอนาคต เพราะปัญหามลภาวะทางอากาศจะเป็นสิ่งที่ท้าทายเราไปอีกยาวนานกว่าโควิด-19 อย่างแน่นอน
มร.อันเดรียส ริชเทอร์ ตัวแทนจากหอการค้าเยอรมัน-ไทยกล่าวว่า หอการค้าเยอรมัน-ไทย ซึ่งมีสมาชิกกว่า 600 คนมีหน้าที่ให้การส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีทางด้านเศรษฐกิจระหว่างเยอรมนี และไทยเราเชื่อว่า เพื่อให้บรรลุถึงความสำเร็จในการพัฒนา และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในประเทศไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านั้นจำเป็นต้องมีการปฏิรูปนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยยังคงสถานะการเป็นผู้นำในด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของภูมิภาค การประกาศความร่วมมือเพื่ออากาศสะอาดในวันนี้ หอการค้าเยอรมัน-ไทย พร้อมทั้งบริษัทที่เป็นสมาชิกทั้งหลายยินดีจะเสนอความเชี่ยวชาญ และความรู้ทางเทคนิค และพร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อสนับสนุนการอภิปรายสาเหตุของมลพิษทางอากาศในประเทศไทย รวมถึงการหาแนวทางปฏิบัติเพื่อบรรเทามลพิษทางอากาศในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน และด้านการขนส่ง
โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงสะอาดมากขึ้น และสนับสนุนเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ด้านอาคารกับการสนับสนุนอาคารสีเขียว ด้านการผลิตกับการทบทวนมาตรฐานการปล่อยมลพิษสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และด้านการเกษตร โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการทำเกษตรกรรมแบบถางโค่น และเผาป่าซึ่งเป็นสาเหตุของไฟป่า และนำไปสู่มลภาวะทางอากาศ ซึ่งหอการค้าเยอรมัน-ไทยและบริษัทสมาชิกพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ประเทศไทยมีอากาศที่สะอาด และกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศในอนาคต
มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหารบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปิดท้ายการประกาศความร่วมมือเพื่ออากาศสะอาดในครั้งนี้ว่า การเข้าร่วม “Clean Air Initiative” ในวันนี้ร่วมกับสมาชิกหอการค้าเยอรมัน-ไทย ถือว่าสอดคล้องกับพันธกิจ และสิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำอย่างต่อเนื่องมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการวางเป้าหมายในการเป็นบริษัทที่เป็นกลางทางคาร์บอนในทุกโรงงานผลิตของเราทั่วโลกในปี 2565 เรื่อยไปจนถึงการที่เราริเริ่มโครงการ “Charge to Change” เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานมาชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้บ่อยขึ้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหา PM2.5 สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น พร้อมทั้งสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้กับคนไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี