สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 นี้รุนแรงกว่า 2 ระลอกที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อหลักพันคนและผู้เสียชีวิตหลับสิบคนต่อวัน ทำให้มีการก่อสร้าง “โรงพยาบาลสนาม” สำหรับรองรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย เพื่อที่จะได้สำรองเตียงในโรงพยาบาลไว้สำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยหนัก ในหลายจุดโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสถานการณ์โรคระบาดรุนแรงอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล
หนึ่งในโครงการที่ถูกกล่าวถึงมากคือ “โรงพยาบาลบุษราคัม” เนรมิตศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค ในพื้นที่เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งในยามปกติจะใช้จัดนิทรรศการ การประชุม และงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ ระดับประเทศ ให้กลายเป็นโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ เบื้องต้นรับได้ 1,200 เตียง และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 5,000 เตียง เริ่มเปิดทำการตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สร้างความมั่นใจให้กับชุมชนโดยรอบ
เพื่อเป็นการสนับสนุนบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอเป็นอีกหนึ่งพลังร่วมช่วยเหลือ ผ่าน “โครงการลมหายใจเดียวกัน” จัดหาเครื่องช่วยหายใจ เครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูงให้โรงพยาบาลเตรียมไว้ใช้รักษาผู้ป่วยอาการหนัก รวม 360 เครื่อง ที่ผ่านมาได้ส่งมอบไปแล้วหลายโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาล ศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชและโรงพยาบาลในเครือ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงโรงพยาบาลสังกัด กทม. และโรงพยาบาลสงขลา เป็นต้น
รวมถึงสนับสนุนด้านอาหารและสิ่งของจำเป็น เช่น จัดส่งอาหารจากร้านเท็กซัส ชิคเก้น เครื่องดื่มจากร้านคาเฟ่ อเมซอน ของกลุ่ม ปตท. และสินค้าวิสาหกิจชุมชนจากโครงการ “ชุมชนยิ้มได้” ซึ่งได้ช่วยเหลือเศรษฐกิจชุมชน และมอบเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และล่าสุดเมื่อมีการตั้งโรงพยาบาลบุษราคัมขึ้น ปตท. จึงได้มอบ “กล่องพลังใจ สู้ภัย COVID-19” จำนวน 1,500 กล่อง เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขให้แก่ผู้ป่วยตลอดระยะเวลาเข้าพักรักษาตัว โดยภายในกล่องมีอุปกรณ์จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ครีมอาบน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการลมหายใจเดียวกัน ของกลุ่ม ปตท. พร้อมสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้จัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัมขึ้น สำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการน้อยถึงปานกลาง หรือที่เรียกว่ากลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง ที่มีจำนวนมากให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถรักษาผู้ป่วยอาการหนัก (กลุ่มสีแดง) อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลาย บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงต้องทำงานอย่างหนัก กลุ่ม ปตท. จึงพร้อมสนับสนุนและเคียงข้างบุคลากรทางการแพทย์ คนไทย และประเทศ ให้ก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันโดยเร็ว เพราะเชื่อมั่นว่า เราคนไทยทุกคนล้วนมีลมหายใจเดียวกัน” นายอรรถพล กล่าว
นอกจากการสนับสนุนภารกิจบุคลากรทางการแพทย์ และการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามแล้ว กลุ่ม ปตท. ยังมีโครงการมอบถุงยังชีพ และกล่องพลังใจสู้ภัย COVID-19 ให้แก่กลุ่มผู้พิการทางสายตา รวมถึงผู้ด้อยโอกาสในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในแหล่งชุมชนคลองเตย อีกทั้ง ยังจัดส่งมอบข้าวกล่องจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบให้แก่ชุมชน ทำให้ผู้ประกอบรายย่อยมีรายได้จากการจำหน่ายอาหารอีกด้วย
ส่วนโครงการ “ชุมชนยิ้มได้” คืออีกหนึ่งความตั้งใจของ ปตท. ในช่วยเหลือชุมชนและเกษตรกรไทยทั่วประเทศ ที่ประสบกับปัญหาในการจัดจำหน่ายและขายสินค้าได้น้อยลง จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเข้าไปสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนารูปแบบสินค้าในมีมาตรฐาน และเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ การจำหน่ายสินค้าผ่านชุมชนออนไลน์ เพื่อให้สินค้าเข้าถึงมือผู้บริโภคได้ง่ายและสะดวกขึ้น ปัจจุบันมีจำนวนสินค้าชุมชนที่อยู่ในโครงการ 581 ประเภทสินค้าจากทั้งหมด 177 ร้านค้าที่เข้าร่วม สร้างรายได้ให้ชุมชนจนถึงปัจจุบันกว่า 14 ล้านบาท
กลุ่ม ปตท. ขอเป็นอีกแรงร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และหนุนคนไทยฝ่าวิกฤตโรคร้ายไปด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี